“คนยาม = ผู้อารักขา = เราทุกคน???”
สดุดี 121:1-8 1 ข้าพเจ้าเงยหน้าดูภูเขา ความอุปถัมภ์ของข้าพเจ้ามาจากไหน 2 ความอุปถัมภ์ของข้าพเจ้ามาจากพระเจ้า ผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก 3 พระองค์จะไม่ให้เท้าของท่านพลาดไป พระองค์ผู้ทรงอารักขาท่านจะไม่เคลิ้มไป 4 ดูเถิด พระองค์ผู้ทรงอารักขาอิสราเอล จะไม่ทรงหลับสนิทหรือนิทรา5 พระเจ้าทรงเป็นผู้อารักขาท่าน พระเจ้าทรงเป็นที่กำบังที่ข้างขวามือของท่าน 6 ดวงอาทิตย์จะไม่โจมตีท่านในเวลากลางวัน หรือดวงจันทร์ในเวลากลางคืน 7 พระเจ้าจะทรงอารักขาท่านให้พ้นภยันตรายทั้งสิ้น พระองค์จะทรงอารักขาชีวิตของท่าน 8 พระเจ้าจะทรงอารักขาการเข้าออกของท่าน ตั้งแต่กาลบัดนี้สืบไปเป็นนิตย์ ผู้เขียนสดุดีได้บรรยายพระลักษณะของพระเจ้า ไว้น่าสนใจมาก เขาใช้คำๆหนึ่งที่โมเสสใช้ซ้ำไปซ้ำมาในหนังสือเฉลยธรรมบัญญัติคือคำว่า “ระวัง” ภาษาฮีบรูคือคำว่า ชามาร์ แปลว่า คนยาม ผู้เฝ้ามองดูตลอดเวลา ในฐานะผู้ปกป้อง (อารักขา) คำว่า ชามาร์ ถูกใช้ในหนังสือสดุดีบทนี้แปลว่า ผู้อารักขา ผู้ปกป้อง คนยาม แต่ในสดุดีตอนนี้ คำว่า ผู้อารักขากลับถูกใช้กับพระเจ้า ในมุมต่างๆที่พระเจ้าทรงทำหน้า ที่ผู้อารักขานั้น มีทั้งไม่ทรงหลับ ไม่ทรงง่วง ไม่ให้พลาด ในตอนนี้ ใช้คำว่า พระเจ้าไม่เคลิ้มหลับ ย้ำถึงสองครั้ง แสดงให้เห็นว่า พระเจ้าทรงให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือ และเฝ้าระวังชีวิตของคนอิสราเอลตลอดเวลา ในความพร้อมที่จะทำหน้าที่ผู้อารักขา (คนยาม) พระเจ้าจึงสามารถเป็นที่กำบังที่เข้มแข็ง (ขวามือ หมายถึงความเข้มแข็ง) น่าสนใจที่พระคัมภีร์ตอนนี้ใช้คำว่า อารักขา ถึงหกครั้ง คือความจริงจังของการทำหน้าที่ พระเจ้าไม่ได้รอให้มนุษย์เรียกร้องพระองค์มาเป็นผู้อารักขา แต่พระเจ้าทรงเป็นผู้อารักขาด้วยพระองค์เอง เป็นแบบอย่างของการเป็นผู้อารักขาที่สัตย์ซื่อ มีวินัย กระตือรือร้น ตื่นตัวตลอดเวลา ดาวิดผู้เขียนสดุดีตอนนี้ กำลังถ่ายทอดอะไรให้กับเรา ดาวิดเป็นผู้ที่ลึกซึ้งกับพระบัญญัติ กฎ เกณฑ์ กฎหมายของพระเจ้า ดาวิดตระหนักเสมอว่า สิ่งที่โมเสสกำชับและสั่งคนอิสราเอลให้ระวังต่อพระบัญญัติ กฎเกณฑ์ กฎหมายของพระเจ้า ด้วยการใช้คำๆเดียวกันกับโมเสส คือให้ทำหน้าที่ผู้อารักขาพระวจนะของพระเจ้าอย่างที่พระองค์ทรงอารักขาพวกเขาเช่นกัน 1โครินธ์ 4:1-2 1ให้ทุกคนถือว่าเราเป็นคนรับใช้ของพระคริสต์ และเป็นผู้อารักขาสิ่งล้ำลึกของพระเจ้า2 ฝ่ายผู้อารักขาเหล่านั้นต้องเป็นคนที่ไว้วางใจได้ทุกคน “คนยาม = ผู้อารักขา = เราทุกคน?” มัทธิว 5:19 19 เหตุฉะนั้น ผู้ใดได้ทำให้ข้อเล็กน้อยสักข้อหนึ่งในธรรมบัญญัตินี้เบาขึ้น ทั้งสอนคนอื่นให้ทำอย่างนั้นด้วย ผู้นั้นจะได้ชื่อว่าเป็นผู้น้อยที่สุดในแผ่นดินสวรรค์ แต่ผู้ใดที่ประพฤติและสอนตามธรรมบัญญัติ ผู้นั้นจะได้ชื่อว่าเป็นใหญ่ในแผ่นดินสวรรค์ เราทุกคนมีหน้าที่จะต้องประพฤติตามและสอนพระวจนะ ของประทานห้าอย่าง(อัครทูต ผู้ประกาศ ผู้เผยพระวจนะ ศิษยาภิบาลและอาจารย์) จะทำให้เราทุกคนเป็นผู้อารักขาที่ดี เป็นผู้เฝ้าระวังที่จะทำตามพระวจนะทุกประการ