“สู่ความไพบูลย์ของพระคริสต์….เคล้าด้วยเกลือชำระด้วยไฟ”
ในเดือนแรกๆที่ข้าพเจ้าผ่าตัดหัวเข่า ได้รับการอนุเคราะห์จากพี่น้องของเรา พี่เล็ก หมอนวดแผนไทยมือหนึ่งของเรา มาช่วยคลายเส้นที่ตึงและอักเสบ ข้าพเจ้าตั้งชื่อว่า ปวดสามปวด ปวดแรก เกิดจากรอยฟกช้ำเนื่องจากอุบัติเหตุหกล้ม ปวดที่สอง จากแผลผ่าตัดและการอักเสบอยู่ในปวดที่สอง ปวดที่สามคือเส้นตึง สามปวดนี้ทรมานมาก แต่ละวันที่ผ่านไป คือการรอคอยให้ความปวดคลายลง ปวดที่คลายลงคือปวดแรก จากสีม่วงก็ค่อยๆจางลง จากบวมก็ค่อยๆยุบ ที่อักเสบก็กินยาแก้อักเสบ แต่เส้นตึงต้องกายบริหารและนวด และเป็นที่มาของการที่ได้รู้จักคุณค่าของการประคบด้วยสมุนไพรที่มีเกลือเป็นส่วนผสม ข้าพเจ้าได้ไปค้นหาความรู้เกี่ยวกับการนวดแผนไทยที่ใช้เกลือก่อนนวดเพื่ออธิบายว่าเกลือถูกใช้ในการนวดคลายเส้นลดการอักเสบได้อย่างไร
ความหมายของการประคบสมุนไพร
การประคบสมุนไพร หมายถึง การรักษาอาการปวดเมื่อยที่มากกว่าปกติด้วยการใช้ความร้อนและตัวยาสมุนไพรเดี่ยวๆ หรือหลายอย่างมาผสมผสานกัน เช่น ในผู้ป่วยที่มีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อจากการเกร็ง หรือเส้นตึง เป็นต้น ก่อนทำการนวดก็ต้องประคบสมุนไพรเสียก่อนเพื่อให้เส้นชิน ทำให้เจ็บปวดน้อยลง หากนวดเลยอาจทำให้มีการอักเสบเกิดขึ้นได้ อาจใช้วิธีประคบไปพร้อมกับการนวด หรือนวดแล้วค่อยประคบก็ได้
การประคบโดยทั่วไปจะเป็นการใช้ความร้อนและแรงกดเพื่อบรรเทาอาการไม่สุขสบายเฉพาะที่ เช่น การปวด การบวมจากการอักเสบ หรือข้อติดขัด เป็นต้น ซึ่งมีทั้งการบำบัดด้วยความร้อนแบบตื้นและแบบลึก มีหลายวิธีที่เป็นการใช้ความร้อนตื้น เช่น การใช้กระเป๋าน้ำร้อน การประคบร้อน การอบไอน้ำ เป็นต้น ส่วนการใช้ความร้อนลึกคือ การใช้เลเซอร์ แต่การนำมาใช้ในวงจำกัดหรือเฉพาะที่โรงพยาบาลเท่านั้น เพราะเป็นวิธีที่ซับซ้อน มีราคาแพง แต่จะมีประสิทธิภาพสูง
การประคบด้วยความร้อนตื้นมีอยู่ 2 แบบคือ การประคบด้วยความร้อนตื้นแบบความร้อนชื้น และการประคบด้วยความร้อนตื้นแบบความร้อนแห้ง สำหรับการประคบสมุนไพรไทยนั้นจะอาศัยหลักการถ่ายเทความร้อนด้วยการนำ ทำให้บริเวณที่ได้รับการประคบมีอุณหภูมิเพิ่มขึ้น และทำให้ผิวหนังชุ่มชื้นอีกด้วย ซึ่งการประคบสมุนไพรไทยก็เป็นการใช้ความร้อนตื้นแบบความร้อนชื้นนั่นเอง
เตรียมตัวยาหรือสมุนไพรที่ใช้ในการประคบ
การใช้สมุนไพรเดี่ยว
เป็นการเลือกใช้สมุนไพรอย่างใดอย่างหนึ่งตามสาเหตุของอาการที่ผิดปกติ เช่น ไพล พลับพลึง ตะไคร้ เป็นต้น
การใช้สมุนไพรหลายชนิดผสมกัน
เช่น ไพล ขมิ้นชัน ผิวมะกรูดหรือใบมะกรูด ตะไคร้บ้าน ใบมะขาม ใบพลับพลึง เถาเอ็นอ่อน เกลือ การบูร และพิมเสน สมุนไพรดังกล่าวมักนิยมใช้กันและมีฤทธิ์ดังนี้
เกลือ(salt)
ในน้ำทะเลจะมีมากที่สุด มีชื่อทางเคมีว่า โซเดียมคลอไรด์(sodium chloride) มีสูตรว่า NaCI เกลือบริสุทธิ์จะมีสีขาว รสเค็ม ละลายน้ำได้ดี เกลือที่ผลิตจากน้ำทะเลเป็นเกลือแกงที่เรียกว่า เกลือสมุทรหรือเกลือทะเล มีสรรพคุณช่วยดูดความร้อน ช่วยทำให้ตัวยาซึมผ่านผิวหนังได้ง่าย และมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรคได้ด้วย
และจากคุณสมบัติของเกลือนี้ พระเยซูคริสต์เจ้าทรงใช้เป็นตัวอย่างในคำสอนของพระองค์ และในพระคัมภีร์เดิม พระเจ้าทรงทำพันธสัญญาเกลือกับพงศ์พันธ์ที่ได้รับเลือกโดยเฉพาะเท่านั้น คือพงศ์พันธ์ของอาโรน ที่ถูกเลือกเป็นปุโรหิต
กันดารวิถี 18:19-20 19 บรรดาเครื่องบูชาบริสุทธิ์ที่คนอิสราเอลมอบถวายแด่พระเจ้า เราให้แก่เจ้าและแก่บุตรชายหญิงซึ่งอยู่กับเจ้าเป็นส่วนแบ่งถาวร เป็นพันธสัญญาเกลือเป็นนิตย์แด่พระเจ้าสำหรับเจ้า และเผ่าพันธุ์ของเจ้าด้วย” 20 และพระเจ้าตรัสกับอาโรนว่า “เจ้าจะไม่ได้รับมรดกในแผ่นดินของเขา ทั้งเจ้าจะไม่มีส่วนอันใดกับเขาเลย เราเป็นส่วนแบ่งของเจ้าและเป็นมรดกของเจ้าท่ามกลางคนอิสราเอล
และพงศ์พันธ์ของกษัตริย์ดาวิดที่พระมาซีฮา(พระผู้ไถ่)จะมากำเนิดผ่านเชื้อสายของดาวิด
2พงศาวดาร13:5 5 ไม่ควรหรือที่ท่านทั้งหลายจะรู้ว่า พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลพระราชทานตำแหน่งพระราชาเหนืออิสราเอลเป็นนิตย์แก่ดาวิด และบุตรหลานของพระองค์โดยพันธสัญญาเกลือ
และจนมาถึงยุคของพระเยซูคริสต์ พระเยซูทรงตรัสถึงการพิพากษาสำหรับชนชาติของพระเจ้า อิสราเอลแท้กับอิสราเอลฝ่ายวิญญาณคือคริสเตียนทั้งหลาย คำสอนของพระเยซูเรื่องการตกนรกจึงมีเรื่องของการเคล้าด้วยเกลือ และชำระด้วยไฟมาเกี่ยวข้อง
มาระโก 9:43-50 43 ถ้ามือของท่านทำให้หลงผิด จงตัดทิ้งเสีย ซึ่งจะเข้าในชีวิตด้วยมือด้วน ยังดีกว่ามีสองมือและต้องถูกทิ้งในนรกในไฟที่ไม่รู้ดับ44 และ45 ถ้าเท้าของท่านทำให้หลงผิด จงตัดทิ้งเสีย ซึ่งจะเข้าในชีวิตด้วยเท้าด้วนยังดีกว่ามีเท้าสองเท้า และต้องถูกทิ้งในนรก46 ในที่นั้นตัวหนอนก็ไม่ตายและไฟก็ไม่ดับเลย47 ถ้าตาของท่านทำให้ท่านหลงผิด จงควักออกทิ้งเสีย ซึ่งจะเข้าในแผ่นดินของพระเจ้าด้วยตาข้างเดียวยังดีกว่ามีสองตา และต้องถูกทิ้งไปในนรก48 ในที่นั้นตัวหนอนก็ไม่ตายและไฟก็ไม่ดับเลย49 ด้วยว่าคนทั้งปวงจะต้องถูกเคล้าเกลือแล้วชำระด้วยไฟ50 เกลือเป็นของดี แต่ถ้าเกลือหมดรสเค็มแล้ว จะทำให้กลับเค็มอีกอย่างไรได้ ท่านทั้งหลายจงมีเกลือในตัวและจงอยู่สงบสุข สามัคคีซึ่งกันและกัน”
“เคล้าด้วยเกลือ ชำระด้วยไฟ” คือคำแนะนำในคำสอนของพระเยซูเรื่องการดำเนินชีวิตอย่างไรมิให้ตกนรก เราถูกสอนว่า โดยความเชื่อในพระเยซูคริสต์ เราไม่ตกนรกเพราะเราอาศัยความชอบธรรมของพระเยซูเพื่อเข้าสู่แผ่นดินสวรรค์ ฟังดูมันง่าย และไม่ต้องลงทุนอะไรเลย แต่ให้เรามาดูคำสอนของพระเยซู คำสอนของยอห์น ที่สอนคนอิสราเอลแท้ยังต้องแสดงการกลับใจใหม่อย่างจริงจัง ในยุคของยอห์น บัพติศโต
ยอห์น ผู้ให้บัพติศมาในน้ำ ได้กล่าวถึงการเสด็จมาของพระมาซีฮา พระผู้ไถ่มนุษย์ ยอห์นได้ประกาศให้คนกลับใจใหม่ เพราะแผ่นดินของพระเจ้าใกล้เข้ามาแล้ว
มัทธิว3:1-12 1คราวนั้นยอห์นผู้ให้รับบัพติศมา มาประกาศในถิ่นทุรกันดารแคว้นยูเดียว่า2 “จงกลับใจเสียใหม่ เพราะว่าแผ่นดินสวรรค์มาใกล้แล้ว”4เสื้อผ้าของยอห์นผู้นี้ ทำด้วยขนอูฐและท่านใช้หนังสัตว์คาดเอว อาหารของท่านคือจักจั่นและน้ำผึ้งป่า5 ขณะนั้นชาวกรุงเยรูซาเล็ม และคนทั่วแคว้นยูเดีย และคนทั่วลุ่มแม่น้ำจอร์แดนก็ออกไปหายอห์น สารภาพความผิดบาปของตน6 และได้รับบัพติศมา จากยอห์นในแม่น้ำจอร์แดน7 ครั้นยอห์นเห็นพวกฟาริสี และพวกสะดูสีพากันมาเป็นอันมาก เพื่อจะรับบัพติศมา ท่านจึงกล่าวแก่เขาว่า “เจ้าชาติงูร้าย ใครได้เตือนเจ้าให้หนีจากพระอาชญาซึ่งจะมาถึงนั้น8 เหตุฉะนั้นจงพิสูจน์การกลับใจของเจ้าด้วยผลที่เกิดขึ้น9 อย่านึกเหมาเอาในใจว่าตัวมีอับราฮัมเป็นบิดา เพราะเราบอกเจ้าทั้งหลายว่า พระเจ้าทรงฤทธิ์อาจจะให้บุตรเกิดขึ้นแก่อับราฮัมจากก้อนหินเหล่านี้ได้10 บัดนี้ขวานวางไว้ที่โคนต้นไม้แล้ว และทุกต้นที่ไม่เกิดผลดีจะต้องตัดแล้วโยนทิ้งในกองไฟ11 เราให้เจ้าทั้งหลายรับบัพติศมาด้วยน้ำ แสดงว่ากลับใจใหม่ก็จริง แต่พระองค์ผู้จะมาภายหลังเรา ทรงมีอิทธิฤทธิ์ยิ่งกว่าเราอีก ซึ่งเราไม่คู่ควรแม้จะถอดฉลองพระบาทของพระองค์ พระองค์จะทรงให้เจ้าทั้งหลาย รับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์และด้วยไฟ12 พระหัตถ์ของพระองค์ถือพลั่วพร้อมแล้ว และจะทรงชำระลานข้าวของพระองค์ให้ทั่ว พระองค์จะทรงเก็บข้าวของพระองค์ไว้ในยุ้งฉาง แต่พระองค์จะทรงเผาแกลบด้วยไฟที่ไม่รู้ดับ”
สำนวนที่ยอห์นได้กล่าวตรงนี้กับอิสราเอลแท้ ก็ยังต้องพิสูจน์การกลับใจใหม่ของพวกเขา จะใช้ความเป็นเชื้อสายของอับราฮัมอย่างเดียวไม่ได้ ในทำนองเดียวกัน พระเยซูทรงประกาศให้คนอิสราเอลกลับใจใหม่ แต่สำนวนของพระเยซูที่กล่าวถึงการพิสูจน์การกลับใจใหม่ ด้วยการดำเนินชีวิตที่ถูกเคล้าด้วยเกลือ และชำระด้วยไฟ เพราะพระเยซูคือพระมาซีฮาที่ยอห์นกล่าวถึง พระเยซูคือผู้ที่จะมาให้คนที่เชื่อในพระองค์พิสูจน์การกลับใจใหม่ จากภายในชีวิต มิใช่แค่ภายนอกเท่านั้น และพระองค์เป็นผู้ที่จะนำการบัพติสมาด้วยพระวิญญาณและด้วยไฟมาสู่คริสตจักรของพระองค์
“เคล้าด้วยเกลือชำระด้วยไฟ” คือปัจจัยสำคัญในการเคลื่อนไปสู่ความไพบูลย์ของพระคริสต์ พระเยซูยังกล่าวถึงถ้ามือ ทำผิดให้ตัดมือ ถ้าเท้าทำผิดให้ตัดเท้า ถ้าตาทำผิดให้ควักตา เข้าสวรรค์อย่างไม่ครบ ดีกว่าตกนรกทั้งตัว แผ่นดินสวรรค์พิพากษาที่จิตใจและจิตวิญญาณ
เกลือ คือสิ่งที่จะใช้ชำระจิตใจ เตรียมจิตเตรียมใจ คำว่า ใจ บางคนถามว่า อยู่ตรงไหนของร่างกาย บางคนชี้ที่หัวใจ บางคนที่ชี้ที่สมอง บางคนบอกว่ารวมๆทั้งหมดของร่างกาย ในภาษาฮีบรู เรียกใจว่า เป็นศูนย์รวมของ ความคิด อารมณ์ แรงบันดาลใจ ความกล้าหาญและการกระทำ
สำนวนคำว่า “เคล้าด้วยเกลือ” น่าจะเป็นการจัดการกับจิตใจ ทั้งความคิด อารมณ์ แรงบันดาลใจ ความกล้าหาญ และการกระทำ คำที่พระเยซูใช้เพื่อสอนให้คนจัดการกับชีวิตภายในเพื่อให้ชีวิตทั้งหมดรอด เข้าสวรรค์อย่างไม่ครบของอวัยวะ เป็นการบอกว่า ตัดใจจากบางอย่างก็ดีกว่าตกนรกไปทั้งหมด
1.เป็นเกลือที่มีความเค็ม
เกลือในภาษากรีก แปลว่า มีรสชาด ฉลาด กระตือรือร้น คำว่า หมดรสเค็ม แปลว่า หมดความกระตือรือร้น ขาดรสชาติ และโง่ นี่เป็นเหตุผลที่พระเยซูสอนสาวกว่า พวกเขาคือเกลือของโลก แปลว่า ให้ฉลาด กระตือรือร้น และมีรสชาติ
โคโลสี 3:5-6 5 จงปฏิบัติกับคนภายนอกด้วยใช้สติปัญญา โดยฉวยโอกาส6 จงให้วาจาของท่านประกอบด้วยเมตตาคุณเสมอ ปรุงด้วยเกลือให้มีรส เพื่อท่านจะได้รู้จักตอบให้จุใจแก่ทุกคน
(2011) 5 จงปฏิบัติต่อคนภายนอกด้วยสติปัญญา โดยใช้โอกาสให้เป็นประโยชน์6 จงให้ถ้อยคำของท่านทั้งหลายประกอบด้วยเมตตาคุณเสมอ ปรุงด้วยเกลือให้มีรส เพื่อท่านจะได้รู้ว่าควรจะตอบแต่ละคนอย่างไร
เรามักจะเป็นเกลือรักษาความเค็มกับเรื่องเงินทอง แต่ไม่ค่อยจะรักษาความเค็มในเรื่องของการทำให้ชีวิตของคนรอบข้างมีชีวิตชีวา มีรสชาดของชีวิต วัยรุ่นบางคนตีความคำว่า ชีวิตมีรสชาติคือ การใช้ชีวิตสนุก สุดเหวี่ยง สุดๆกับความคึกคะนองของวัย ไม่อดเปรี้ยวไว้กินหวาน ลองก่อนวัยอันควร นี่คือกระบวนการทำลายความเป็นเกลือ
แต่วัยรุ่นหนุ่มสาวที่พยายามกลับตัวกลับใจ หรือแม้แต่คนที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว ที่พยายามกลับตัวกลับใจ การกลับใจใหม่คือกระบวนการถูกสร้างให้เป็นเกลือ คุณกำลังเดินสู่ความไพบูลย์ของพระคริสต์ด้วยการเป็นเกลือด้วยชีวิตที่มีคุณภาพ ด้านสติปัญญา ความกระตือรือร้น และคือชีวิตที่มีรสชาติมากขึ้น อย่างโคโลสีได้กล่าวถึง การฉวยโอกาสทำคุณประโยชน์ แทนการใช้ชีวิตที่ผลาญชีวิต ไม่ทำคุณประโยชน์อะไร
การพิสูจน์การกลับใจใหม่ คือการแสวงหาความหิวกระหายความชอบธรรมของพระเจ้า การแสดงการกลับใจใหม่ การต่อสู้กับความบาป การพยายามเอาชนะตนเอง แบกกางเขน เดินตามพระเยซู คือการเคล้าด้วยเกลือ มันเจ็บปวด มันแสบร้อน แต่คือการเตรียมชีวิตของเราที่จะเข้าสู่การชำระด้วยไฟ การเคล้าด้วยเกลือ เป็นการจัดการกับความโง่ของตนเอง การทำบาป มีผลทำให้เราทำอะไรโง่ๆออกมา เวลานี้คือเวลาแห่งพระคุณที่ยังมีโอกาสที่จะกลับตัวกลับใจ เริ่มต้นใหม่ ยังไม่สาย ที่จะทำอะไรที่ฉลาดในสายพระเนตรของพระเจ้า อย่าประพฤติตามอย่างคนในยุคนี้ที่ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับกิเลศตัณหาภายในจิตใจ การควบคุมจิตใจของตนเอง คือการเตรียมตัวเพื่อจะเข้าสู่การชำระด้วยไฟ ซึ่งเป็นไฟที่ไม่รู้ดับ เป็นไฟที่จะตัดสินว่า เราได้ดำเนินชีวิตขณะอยู่ในโลกนี้ด้วยกระบวนการเคล้าด้วยเกลืออย่างไร เป็นกระบวนการที่เรียกว่า เป็นเครื่องบูชา
โรม 12:1-2 1 พี่น้องทั้งหลาย ด้วยเหตุนี้โดยเห็นแก่ความเมตตากรุณาของพระเจ้า ข้าพเจ้าจึงวิงวอนท่านทั้งหลายให้ถวายตัวของท่านแด่พระองค์ เพื่อเป็นเครื่องบูชาที่มีชีวิตอันบริสุทธิ์และเป็นที่พอพระทัยพระเจ้า ซึ่งเป็นการนมัสการโดยวิญญาณจิตของท่านทั้งหลาย2 อย่าประพฤติตามอย่างคนในยุคนี้ แต่จงรับการเปลี่ยนแปลงจิตใจ แล้วอุปนิสัยของท่านจึงจะเปลี่ยนใหม่ เพื่อท่านจะได้ทราบน้ำพระทัยของพระเจ้า จะได้รู้ว่าอะไรดี อะไรเป็นที่ชอบพระทัยและอะไรดียอดเยี่ยม
พันธสัญญาเกลือที่พระเจ้าทรงทำกับอาโรน และเล็งถึงพระมาซีฮามาเกิดในเชื้อสายของดาวิด คือพระเยซูคริสต์เจ้า ผู้เป็นปุโรหิตที่นำทางให้คนที่เชื่อในพระองค์เป็นปุโรหิตหลวงตามกัน ทุกสิ่งที่อาโรนถวายเพื่อตนเอง จะต้องเคล้าด้วยเกลือก่อนถวาย ประยุกต์กับเราในวันนี้ ชีวิตของเราจะถวายเป็นเครื่องบูชาอันบริสุทธิ์แด่พระเจ้า ต้องเคล้าด้วยเกลือ ปรุงให้มีรสชาติ มีสติปัญญา มีความกระตือรือร้น สิ่งเหล่านี้ ไม่ได้ตัดสินกันที่การศึกษา ความร่ำรวย เล่ห์เหลี่ยมอย่างมนุษย์ อย่างชาวโลก แต่ตัดสินกันโดยพระเจ้าผู้ตรวจสอบจิตใจของเราทุกคน เรากำลังดำเนินชีวิตที่ถูกเคล้าด้วยเกลือ ในมาตรฐานของพระเยซูคริสต์ (คำสอนของพระองค์) อย่างไร
จำเป็นที่คริสเตียนต้องอยู่ในกระบวนการถูกเคล้าด้วยเกลือ จน ฉลาด กระตือรือร้น และมีชีวิตชีวา
มัทธิว 10:16 16 “ดูเถิด เราใช้พวกท่านไปดุจแกะอยู่ท่ามกลางหมาป่า เหตุฉะนั้นจงฉลาดเหมือนงู และไม่มีภัยเหมือนนกพิราบ
คำว่าฉลาดเหมือนงู ในความหมายที่เป็นบวก หมายถึง การครุ่นคิดอย่างรอบคอบ ไม่มีภัย คือไม่ทำอันตรายให้กับคนอื่น นี่คือวิถีของคนฉลาดในสายพระเนตรของพระเยซู เป็นเกลือ ยังมีความกระตือรือร้น คือการตื่นตัวเสมอ ตื่นตลอดเวลาไม่หลับ มีรสชาติ หมายถึง ความมีชีวิตชีวาที่ไม่ต้องปรุงแต่ง เป็นชีวิตธรรมชาติ อย่างที่เป็น นี่คือ การเตรียมชีวิตเพื่อพบกับการชำระด้วยไฟที่ไม่รู้ดับ
2.เตรียมตัวเผชิญกับไฟที่ไม่รู้ดับ
พระเยซูได้ตรัสถึงชะตากรรมของมนุษย์ทุกคน จะต้องเผชิญกับไฟที่ไม่รู้ดับ อัครทูตเปาโลก็ได้กล่าวถึงไฟที่ไม่รู้ดับ เป็นไฟที่จะพิสูจน์ในตอนสุดท้ายของมนุษย์ทุกคนว่า ใครจะสามารถผ่านการชำระด้วยไฟนี้ไปได้ พระเยซูตรัสว่า ถ้าไม่ผ่านก็ต้องตกนรก ถ้าอย่างนั้น คำสอนที่ว่า ทุกคนรอดโดยพระคุณ มิใช่ด้วยการกระทำก็ขัดแย้งหรือ ความจริงไม่ได้ขัดแย้งเลย แต่กลับสนับสนุนกันและกันเสียยิ่งกว่า มีคริสเตียนในยุคหนึ่งเข้าใจว่า มีความเชื่ออย่างเดียวก็รอด คริสเตียนในยุคนั้นก็เลยดำเนินชีวิตสำมเลทะเม เละเทะ ในเรื่องศีลธรรม ในยุคของเราก็ยังมีคริสเตียนแบบนี้ด้วย แต่ในยุคก่อนนั้นมีการถกเถียงกันว่า ความรอดโดยความเชื่ออย่างเดียวไม๊ หรือต้องการกระทำด้วย หนังสือยากอบจึงได้กล่าวถึงความเชื่อที่ต้องมีการกระทำ แต่ไม่ใช่การกระทำเพื่อให้ตนเองชอบธรรม แต่เป็นการกระทำที่สนับสนุนความเชื่อว่า ตนเองรอดได้โดยความเชื่อในพระเยซูคริสต์ คือการกลับใจใหม่ (ไม่ใช่ตอนรับเชื่ออย่างเดียว) แต่ต้องเข้าสู่กระบวนการเคล้าด้วยเกลือ เตรียมตัวพบกับไฟชำระ พิสูจน์การกลับใจใหม่ด้วย จิตใจภายในที่จำเริญขึ้น (เปลี่ยนใหม่ ไม่เหมือนเดิม) Anakainoo ภาษากรีกแปลว่า ใหม่ไม่เคยมี ไม่เคยเป็น
2โครินธ์ 4:16 16 เหตุฉะนั้นเราจึงไม่ย่อท้อ ถึงแม้ว่ากายภายนอกของเรากำลังทรุดโทรมไป แต่จิตใจภายในนั้นก็ยังคงจำเริญขึ้นใหม่ทุกวัน
สิ่งใหม่ๆเกิดขึ้นทุกวัน ทุกวันเราไม่เหมือนเดิม สิ่งเก่าๆล่วงไป นี่แน่ะกลายเป็นสิ่งใหม่ทั้งสิ้น
การมีชีวิตอยู่ของเราทุกคน คือการเข้าสู่กระบวนการถูกเคล้าด้วยเกลือ เตรียมชีวิตสำหรับไฟชำระ
1โครินธ์ 3:11-15 11 เพราะว่าผู้ใดจะวางรากอื่นอีกไม่ได้แล้ว นอกจากที่วางไว้แล้วคือพระเยซูคริสต์12 บนรากนั้นถ้าผู้ใดจะก่อขึ้นด้วยทองคำ เงิน เพชรพลอย ไม้ หญ้าแห้งหรือฟาง13 การงานของแต่ละคนก็จะได้ปรากฏให้เห็น เพราะวันเวลาจะให้เห็นได้ชัดเจน เพราะว่าจะเห็นชัดได้ด้วยไฟ ไฟนั้นจะพิสูจน์ให้เห็นการงานของแต่ละคนว่าเป็นอย่างไร14 ถ้าการงานของผู้ใดที่ก่อขึ้นทนอยู่ได้ ผู้นั้นก็จะได้ค่าตอบแทน15 ถ้าการงานของผู้ใดถูกเผาไหม้ไป ผู้นั้นก็จะขาดค่าตอบแทน แต่ตัวเขาเองจะรอด แต่เหมือนดังรอดจากไฟ
เราดำเนินชีวิตอยู่บนโลกนี้ได้อย่างมีความสุข ความสนุกสนานอย่างมีรสชาติ มีชีวิตชีวา แต่ขอให้ฉลาด และตื่นตัวว่า เราต้องพบกับไฟชำระกันทุกคน จงสำรวจชีวิตทุกๆวัน สำรวจความคิด การกระทำ คำพูด ท่าทีในจิตใจ มีชีวิตที่มีคุณภาพในความคิด การกระทำ คำพูด และจิตใจ นี่แหล่ะคือชีวิตที่เตรียมสำหรับไฟชำระที่ไม่รู้ดับ วันนั้น เราจะรอดอย่างมีสง่าราศี ไม่ใช่รอดอย่างหมดตัว (รอดจากไฟ)
“สู่ความไพบูลย์ของพระคริสต์….เคล้าด้วยเกลือชำระด้วยไฟ”
1.เป็นเกลือที่มีความเค็ม
2.เตรียมตัวเผชิญกับไฟที่ไม่รู้ดับ