“ระวัง…จะกลายเป็นคนโง่ได้”
สุภาษิต 3:11-18 11 บุตรชายของเราเอ๋ย อย่าดูหมิ่นพระดำรัสสอนของพระเจ้า หรือเบื่อหน่ายต่อพระดำรัสเตือนของพระองค์ 12 เพราะพระเจ้าทรงตักเตือนผู้ที่พระองค์ทรงรัก ดังบิดาตักเตือนบุตรผู้ที่เขาปีติชื่นชม 13 มนุษย์ผู้ประสบปัญญา และผู้ได้ความเข้าใจ เป็นสุขจริงหนอ 14 เพราะผลที่ได้จากปัญญา ย่อมดีกว่าผลที่ได้จากเงิน และกำไรนั้นดีกว่าทองคำ 15 ปัญญาประเสริฐกว่าทับทิม และบรรดาสิ่งที่เจ้าปรารถ นาจะเปรียบกับปัญญาไม่ได้ 16 ชีวิตยืนยาวอยู่ที่มือขวาของปัญญา และที่มือซ้ายมีความมั่งคั่งและเกียรติยศ 17 ทางของปัญญาเป็นทางของความร่มรื่น และวิถีทั้งสิ้นของปัญญาคือสันติภาพ 18 ปัญญาเป็นต้นไม้แห่งชีวิตแก่ผู้ที่ยึดเธอไว้ บรรดาผู้ที่ยึดเธอไว้แน่น เรียกว่า สบาย
ดูเหมือนคำเตือนที่มาจากพระเจ้า มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้คนที่เชื่อฟัง สบาย อายุยืน มั่งคั่ง มีเกียรติยศ พบกับความร่มรื่น สันติภาพ และความสุข ทั้งสิ้นนี้ สรุปได้เป็นคำๆเดียว คือคำว่า ปัญญา (ฉลาดในสายพระเนตรของพระเจ้า ไม่ใช่ในสายตาของมนุษย์)
1โครินธ์2:6-7 6 เรากล่าวถึงเรื่องปัญญาในหมู่คนที่เป็นผู้ใหญ่แล้วก็จริง แต่มิใช่เรื่องปัญญาของยุคนี้ หรือเรื่องปัญญาของอำนาจครอบครองในยุคนี้ ซึ่งจะเสื่อมสูญไป7 แต่เรากล่าวถึงเรื่องพระปัญญาของพระเจ้าซึ่งเป็นข้อลับลึก คือพระปัญญาซึ่งทรงซ่อนไว้นั้น และซึ่งพระเจ้าได้ทรงกำหนดไว้ก่อนปฐมกาล เพื่อให้เราถือศักดิ์ศรีของเรา
1โครินธ์3:18-20 18 อย่าให้ผู้ใดหลอกลวงตัวเอง ถ้าผู้ใดในพวกท่านคิดว่า ตัวเป็นคนมีปัญญาตามหลักของยุคนี้ จงให้ผู้นั้นยอมเป็นคนโง่ จึงจะเป็นคนมีปัญญาได้ 19 เพราะว่าปัญญาของโลกนี้ เป็นความโง่เขลาในสายพระเนตรของพระเจ้า ด้วยมีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า พระองค์ทรงจับคนที่มีปัญญาด้วยอุบายของเขาเอง 20 และมีเขียนไว้ในพระคัมภีร์อีกว่า พระเจ้าทรงทราบว่า ความคิดของคนมีปัญญาเป็นสิ่งไร้ประโยชน์
พระคัมภีร์ได้บอกชัดเจนว่า ใครโง่…ใครฉลาด…ในสายตาพระเจ้า นั่นคือคนที่คิดว่าตนเองฉลาด โดย เฉพาะการคิดว่า ตนฉลาดกว่าคนอื่น ความคิดที่คิดว่าดีกว่าคนอื่น จะทำให้เกิดเป็นความเย่อหยิ่ง และจากฉลาดจะกลายเป็นโง่ เราอยู่ในยุคที่คนกำลังใช้คำว่า คนโง่กลายเป็นเหยื่อของคนฉลาด จึงทำให้มีความคิดที่ว่าจะไม่ยอมเป็นคนโง่ในสายตาของคนอื่น และทำให้เกิดเป็นการปกป้องตนเองอย่างผิดๆ ผิดก็ไม่ยอมรับผิด โกหกกันไปมาจนไม่รู้จะหาความจริงได้จากตรงไหน สังคมกำลังกลายเป็นสีขาวหมด(เมื่อก่อนเราใช้คำว่า สีเทากับความไม่ชัดเจน คลุมเครือ แต่วันนี้ สังคมกำลังทำทุกอย่างให้กลายเป็นความถูกต้องทั้งหมด ไม่มีอะไรผิด สิ่งที่ผิดกลายเป็นถูกไปหมด เพราะความกลัวที่จะเป็นคนโง่ในสายตาของมนุษย์ และในท้ายที่สุด กลับกลายเป็นคนโง่ในสายพระเนตรของพระเจ้า จบเห่….