“ประตูที่คับและทางที่แคบ”

เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ข้าพเจ้าเทศนาในหัวข้อ เข็มทิศชีวิต  ซึ่งหมายถึงการดำเนินชีวิตที่ต้องมีการนำทาง  การดำเนินชีวิตของเราทุกคนเหมือนการเดินทาง  โดยเฉพาะการเป็นผู้รับใช้ของพระคริสต์อย่างไดโคนอส คือ ร่วมเดินทางไปกับเจ้านายซึ่งเป็นผู้นำทาง  วันนี้ จะเป็นเรื่องของการเดินตามเข็มทิศที่จะนำทางไปในเส้นทางที่เรียกว่า ประตูคับ และทางแคบ

มัทธิว 7:13-14  13 “จง​เข้า​ไป​ทาง​ประตู​แคบ เพราะ​ว่า​ประตู​ใหญ่ และ​ทาง​กว้าง​ซึ่ง​นำไป​ถึง​ความ​พินาศ และ​คน​ที่​เข้า​ไป​ทาง​นั้น​มี​มาก​14 เพราะ​ว่า​ประตู​ซึ่ง​นำไป​ถึง​ชีวิต​นั้น​ก็​คับ​และ​ทาง​ก็​แคบ ผู้​ที่​หา​พบ​ก็​มี​น้อย​

พระเยซูคริสต์ทรงยกตัวอย่างเปรียบเทียบเรื่องประตูและทางแคบ ตามมาตรวัดของคนยิว ที่ฟังแล้วจะเข้าใจ  มาตรวัดประตูและทางแคบ มีอย่างนี้ ทางไปประตูบ้าน (ส่วนตัว) กว้างสี่ศอก ประมาณเมตรกว่าๆ ทางระหว่างเมืองสู่เมือง กว้างแปดศอก ประมาณสองสามเมตร  ทางสาธารณะ (คนเดินเยอะ ไร้ทิศทางทาง จะไปทางไหนก็ได้ มีความกว้าง สิบหกศอก ประมาณหกเมตร และทางสุดท้าย ที่กว้างสามสิบสองศอก ประมาณสิบสองเมตร คือทางสู่เมืองลี้ภัย (ที่เต็มไปด้วยผู้ฆ่าคน  ทั้งเจตนา และไม่เจตนา)

คนไทยเรามีสำนวนว่า คับที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยาก เป็นคำที่บอกว่า หากอยู่ที่ไหนไม่สบายใจ คนไทยเราก็จะเลือกไปจากที่อื่น ที่สบายใจ  จึงมักจะมีคนลาออกจากงาน ย้ายที่ทำงานบ่อยๆ และสำหรับคริสเตียนก็ย้ายโบสถ์ เพราะรู้สึกว่า ไม่สบายใจ ไปแบบไม่สบายใจ และในสังคมคริสตจักรก็มีคริสเตียนจำนวนไม่น้อยย้ายโบสถ์ จากโบสถ์นั้นไปโบสถ์นี้ และอ้างแต่คำว่า ไม่สบายใจ

ข้าพเจ้าเพิ่งกลับจากเยี่ยมเยียนพี่น้องที่ภูเก็ต  เจอหลายคนก็ปรับทุกข์เรื่องความไม่พอใจผู้นำ ศิษยาภิบาล บางคนก็ย้ายโบสถ์ บางคนก็ยังทนอยู่ ไม่น่าเชื่อว่า ทุกคนต่างเล่าเรื่องโจมตีศิษยาภิบาล และครอบครัวของเขา ข้าพเจ้าจึงแนะนำว่า ถ้าเขาทำไม่ถูก พระเจ้าตั้งเขา พระเจ้าก็จะปลดเขาเอง ทุกคนต่างต้องรับผิดชอบต่อบทบาทหน้าที่ของตนเอง อย่าออกจากโบสถ์ด้วยความรู้สึกคับใจ รอให้สบายใจแล้ว และพระเจ้านำ ก็ออกจากโบสถ์ตามการนำของพระเจ้า ไม่ใช่เพราะความไม่สบายใจ เวลาคนเรามีอารมณ์โกรธ น้อยใจ การตัดสินใจมักจะผิดพลาด และแน่นอน ไม่ได้ตามการทรงนำของพระเจ้า

เมื่อสามสิบปีที่แล้ว ข้พเจ้าทำงานบริษัท ข้าพเจ้าเคยมีความรู้สึกไม่สบายใจกับวิธีทำงานของบริษัท และอยากออกจากงาน  แต่เมื่ออธิษฐานกับพระเจ้า พระเจ้าให้อยู่  ทำงานต่อ จนวันหนึ่ง เป็นวันที่สบายใจที่สุด ทำอะไรก็ดีไปหมด ขณะกำลังเฝ้าเดี่ยว และลืมเรื่องความอยากจะออกจากงาน ทันใด พระเจ้าก็ตรัสกับข้าพเจ้าว่า ลาออกจากงานได้แล้ว ข้าพเจ้าก็เชื่อฟัง โทรศัพท์ไปบอกลาออกจากเจ้านายทันทีในเช้านั้น ไม่มีความลังเลใจ ไม่กังวลเรื่องจะมีงานทำหรือไม่มีงานทำ  เชื่อฟังอย่างเดียว  ถึงวันนี้ ข้าพเจ้าแน่ใจเลยว่า ข้าพเจ้าไม่เสียใจกับการตัดสินใจในวันนั้นเลย เพราะวันนี้ ของข้าพเจ้า ดีกว่าวันนั้น  แต่ประตู (โอกาส) ในวันนี้ คับไม๊ เรียกว่า ไม่ใช่ประตูคับ แต่มองไม่เห็นประตูเลย ทางแคบไม้ มองไม่เห็นทางด้วยว่าจะไปต่ออย่างไร แต่วันนั้นสบายใจ ออกมาอย่างสบายใจ ไม่ใช่คับใจ

และเมื่อมีคนรู้ว่า ข้าพเจ้าลาออกจากงาน ยังไม่มีงานทำ ก็ชวนให้มาช่วยงานโบสถ์ รับใช้กับโบสถ์  คนรอบตัวพูดในทำนองว่า สิ้นคิด (โลกแคบ) คนที่ดูถูก ก็มองตั้งแต่หัวจรดเท้าว่า ไม่มีทางไป เลยมาทำงานที่โบสถ์ ความรู้สึกตอนนั้น บอกได้คำเดียวว่า แทบทนไม่ได้ กับการดูถูก ต้องอยู่ในวินัยของโบสถ์ ต้องทำอะไรภายใต้กฏระเบียบแบบโบสถ์ ที่ไม่เคยทำมาก่อน  (นื่คือทางแคบ)

และพบกับแรงกดดันอีกหลายด้านในระหว่างทำงานที่โบสถ์  จนข้าพเจ้าลาออกด้วยการให้เหตุผลว่าไปเรียนต่อ (พระเจ้าทรงอนุญาตให้ไปเรียนต่อ) และก็พบกับทางแคบอีกในที่ที่ไปเรียนต่อ จนอยากจะย้ายที่เรียน แต่พระเจ้าก็ปิดประตู  ให้เรียนที่เกาหลี (ซึ่งเรียนอย่างไม่ชอบเกาหลีเลย) จึงเป็นเหตุผลที่ข้าพเจ้าไม่ได้ภาษาเกาหลีมา ซึ่งน่าจะได้ แต่เพราะไม่ชอบคนเกาหลีบางคน(ที่ดูถูก) ก็เลยไม่ยอมเรียนภาษาเกาหลีที่มาประเคนถึงที่ มีคนอาสาสอน (ตอนนั้นใช้แต่ภาษาอังกฤษในการเรียน จึงไม่จำเป็นต้องเรียนภาษาเกาหลี)  เป็นความเย่อหยิ่งแบบโง่สุดๆ

วันนี้ ข้าพเจ้ารู้แล้ว่า ประตูที่คับ และทางที่แคบ ให้ประโยชน์อย่างมาก

ยอห์น 10:7 7 ​พระ​เยซู​จึง​ตรัส​กับ​เขา​อีก​ว่า “เรา​บอก​ความ​จริง​แก่​ท่าน​ว่า เรา​เป็น​ประตู​ของ​แกะ​ทั้ง​หลาย

ทางแคบ จะนำเราไปถึงประตู คือพระเยซูคริสต์ เป็นประตูส่วนตัว ประตูที่เราจะได้เรียนรู้ชีวิตอย่างพระเยซู

ฟิลิปปี 2:5-8  5 ท่าน​จง​มี​น้ำใจ​ต่อ​กัน​เหมือน​อย่าง​ที่​มี​ใน​พระ​เยซู​คริสต์​6 ผู้​ทรง​สภาพ​ของ​พระ​เจ้า แต่​มิได้​ทรง​ถือ​ว่า​การ​เท่า​เทียม​กับ​พระ​เจ้า​นั้น​เป็น​สิ่ง​ที่​จะต้อง​ยึดถือ​7 แต่​ได้​กลับ​ทรง​สละ และ​ทรง​รับ​สภาพ​ทาส ทรง​ถือ​กำเนิด​เป็น​มนุษย์​8 และ​เมื่อ​ทรง​ปรากฏ​พระ​องค์​ใน​สภาพ​มนุษย์​แล้ว ​พระ​องค์​ก็​ทรง​ถ่อม​พระ​องค์​ลง​ยอม​เชื่อ​ฟัง​จนถึง​ความ​มรณา กระทั่ง​ความ​มรณา​ที่​กางเขน​

คำว่า น้ำใจ นี้ แปลว่า จิตใจที่ดี จิตใจอย่างพระเจ้า ที่เต็มไปด้วยคุณธรรมความดี อย่างพระเยซู ที่ทรงเป็นพระเจ้าแต่ถ่อมใจ รับได้กับทุกภาวะของอารมณ์ที่ถูกกดดัน ด้วยความงดงามของจิตใจ ปราศจากตำหนิ และการติเตียน

เราจะไม่สามารถมีน้ำใจอย่างนี้ได้ หากเราไปไม่ถึงประตู คือไปไม่ถึงพระเยซูคริสต์  ทางแคบเท่านั้น จึงจะนำเราไปถึงประตู คือพระเยซูคริสต์เจ้า  คำสอนเรื่องทางแคบ และทางกว้าง เพื่อจะสอนเราว่า การเป็นผู้รับใช้ของพระเยซู จะต้องเดินในทางเดียวกันกับพระเยซู ซึ่งเป็นทางแคบ และตรงกันข้ามกับคนที่เดินในทางกว้าง หากเราเลือกเดินตามส่วนใหญ่ เราจะไม่มีวันได้พบกับพระเยซูแน่นอน

คนส่วนใหญ่ในยุคของเราเลือกเดินทางไหนบ้าง ทางที่สบายใจ (แม้ทำผิดบาป ก็หาวิธีที่จะทำให้บาปผิดนั้นกลายเป็นถูก ) มีคำพูดหนึ่งกล่าวว่า โลกของเราวันนี้และอนาคตต่อๆไป จะมีแต่สีขาว คือทุกอย่างถูกหมด ไม่มีอะไรผิด นั่นคือ คนจะไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองอยู่ในสภาพรับผิดกับสิ่งที่ตนเองทำผิด แต่จะหาข้อแก้ตัว ให้สมเหตุสมผล แล้วก็กลายเป็นถูก

เราได้เห็นการพยายามปกป้องเจ้าลัทธิที่กำลังเป็นข่าวดังในบ้านเรา หาไม่เจอ จับไม่ได้เพราะท่านสามารถล่องหนได้  หรือท่านทำดีมากมาย เลยถูกคนไม่ดีมุ่งร้าย ต่อท่าน สารพัดเหตุผลที่จะนำมาใช้เพื่อปกป้อง และแก้ผิดให้ถูก

สำหรับเราที่เป็นคนเล็กๆในสังคมเล็กๆ เราก็ไม่แตกต่าง  แนวโน้มของการเปลี่ยนผิดให้กลายเป็นถูก ด้วยการให้ร้ายคนอื่น เพื่อตนเองจะถูกต้อง เกิดขึ้นได้กับทุกสังคม นี่คือทางกว้างที่คนมากมายเลือกเดิน และพระเยซูทรงตรัสว่า

 …..เพราะ​ว่า​ประตู​ใหญ่ และ​ทาง​กว้าง​ซึ่ง​นำไป​ถึง​ความ​พินาศ และ​คน​ที่​เข้า​ไป​ทาง​นั้น​มี​มาก​

คนส่วนใหญ่ใช้ทางนั้น มาตรวัดของคนยิวสำหรับทางที่กว้างที่สุด และไร้ทิศทาง คือทางสาธารณะ และทางสู่เมืองลี้ภัย ทางที่คนเป็นฆาตรกรเลือกใช้เส้นทางนั้น เพื่อจะใช้สำหรับแก้คดีความของตนเอง  ในพระคัมภีร์เดิม มีตัวอย่างของทางแคบ ที่พระเจ้าทรงใช้เพื่อจะบังคับให้คนๆหนึ่งกลับมาสู่น้ำใจอย่างพระเจ้า

กันดาลวิถี 22:26,34   26 แล้ว​ทูตสวรรค์​ของ​พระ​เจ้า​ก็​เดิน​ไป​ข้างหน้า ยืน​อยู่​ใน​ที่​แคบ ไม่​มี​ทาง​ที่​จะ​หลีก​ไป​ข้าง​ขวา​หรือ​ข้าง​ซ้าย​….34 แล้ว​บา​ลา​อัม​พูด​กับ​ทูตสวรรค์​ของ​พระ​เจ้า​ว่า “ข้าพเจ้า​ได้​กระทำ​บาป เพราะ​ข้าพเจ้า​ไม่​ทราบ​ว่า​ท่าน​ยืน​อยู่​ใน​หนทาง​กั้น​ข้าพเจ้า ฉะนั้น​ถ้า​ท่าน​ไม่​เห็นชอบ ข้าพเจ้า​จะ​กลับไป​เสีย”

บาลาอัมฝืนคำสั่งของพระเจ้าที่ให้อวยพรแก่อิสราเอลแทนการสาปแช่ง บาลาอัมเห็นแก่สินจ้างของบาลาค ที่ว่าจ้างบาลาอัมไปสาปแช่งอิสราเอล เพราะบาลาอัมมีชื่อเสียงเรื่องนี้ แต่พระเจ้าสั่งให้บาลาอัมไม่ให้ทำ แต่เมื่อบาราคตั้งค่าจ้างสูงขึ้นเรื่อยๆ บาลาอัมก็ขัดน้ำพระทัยพระเจ้าเรื่องนี้ และระหว่างทางที่เดินทางไปตามการว่าจ้าง พระเจ้าส่งทูตสวรรค์มาขวางทาง และไล่ต้อนให้บาลาอัมไปถึงทางแคบ ไม่สามารถจะหนีไปทางไหนได้ จนบาลาอัมคิดว่า ลาที่ตนเองขี่อยู่เป็นเหตุ ทำให้บาลาอัมตีลา ตีเอาๆๆๆๆ

กันดารวิถี 22:31-33  31 แล้ว​พระ​เจ้า​ทรง​เบิก​ตา​บา​ลา​อัม เขา​จึง​เห็น​ทูตสวรรค์​ของ​พระ​เจ้า ถือ​ดาบ​ยืน​อยู่​ใน​หนทาง บา​ลา​อัม​ก็​ก้ม​ศีรษะ​ซบ​หน้า​ลง​กราบ​32 และ​ทูตสวรรค์​แห่ง​พระ​เจ้า พูด​กับ​บา​ลา​อัม​ว่า “ทำไม​เจ้า​จึง​ตี​ลา​ของ​เจ้า​ถึง​สาม​ครั้ง ดู​เถิด เรา​มา​ห้าม​เจ้า เพราะ​เจ้า​ขัด​ขืน​เรา​33 ลา​ได้​เห็น​เรา และ​หลีก​ไป​ต่อ​หน้า​เรา​ถึง​สาม​ครั้ง ถ้า​มัน​มิได้​หลีก​ไป​จาก​เรา เรา​จะ​ได้​ฆ่า​เจ้า​เสีย​แล้ว​เมื่อ​ตะ​กี้​นี้​แน่ และ​ให้​ลา​รอด​ตาย​ไป”

ให้เราลองสำรวจมองดูความคับใจที่กำลังเกิดขึ้นภายในจิตใจของตนเอง  บางที เรากำลังได้รับความช่วยเหลือให้รอดตายจากเหตุที่ทำให้เราคับใจอยู่ก็ได้ อย่าเพิ่งด่วนสรุป โทษนั่นโทษนี่ ทำบาปซ้ำซ้อน  แต่พระเจ้าอาจจะกำลังพาเราไปสู่ทางแคบ เพื่อจะพบกับประตู คือพระเยซูคริสต์ เพื่อให้พระองค์เปิดตาใจเราว่า เราต้องกลับใจใหม่ และเปลี่ยนหนทางวิถีการดำเนินชีวิตที่เป็นทางเดียวกันกับคนส่วนใหญ่

อย่าคิดว่า เราเป็นคริสเตียนแล้ว เราจะเดินในทางแคบแบบอัตโนมัติ  ตราบใดที่เรายังอยู่ในโลกนี้  เรากำลังอยู่ในท่ามกลางบรรยากาศและสภาพแวดล้อมที่เป็นทางกว้างทั้งสิ้น ไม่อย่างนั้น พระคัมภีร์ใหม่หลายตอนจะบอกเราให้ระวังในการดำเนินชีวิต และหลีกเลี่ยงการรักโลกทำไม

มีตัวอย่างคริสเตียนที่รักโลก และทิ้งการรับใช้ไป (ในยุคของอ.เปาโล) ที่ยุคนั้น การล่อลวง และยั่วยวนน้อยกว่ายุคของเรามาก

2ทิโมธี 4:10 10 เพราะ​ว่า​เด​มาสได้​หลง​รัก​โลก​ปัจจุบัน​นี้​เสีย​แล้ว และ​ได้​ทิ้ง​ข้าพเจ้า​ไป​ยัง​เมือง​เธ​สะโล​นิ​กา….

ความหมายของคำว่า รักโลก ในที่นี้ ก็คือความหมายเดียวกันกับในหนังสือ 1ยอห์น

1ยอห์น 2:15-17  15 อย่า​รัก​โลก​หรือ​สิ่งของ​ใน​โลก ถ้า​ผู้ใด​รัก​โลก ความ​รัก​ต่อ​พระ​บิดา​ไม่ได้​อยู่​ใน​ผู้​นั้น​16 เพราะ​ว่า​สารพัด​ซึ่ง​มี​อยู่​ใน​โลก คือ​ตัณหา​ของ​เนื้อ​หนัง​และ​ตัณหา​ของ​ตา และ​ความ​ทะนง​ใน​ลาภ​ยศ​ไม่ได้​เกิด​มา​จาก​พระ​บิดา แต่​เกิด​มา​จาก​โลก​17 และ​โลก​กับ​สิ่ง​ที่​ยั่วยวน​ของ​โลก​กำลัง​ล่วง​ไป แต่​ผู้​ที่​ประพฤติ​ตาม​พระ​ทัย​ของ​พระ​เจ้า​จะ​ดำรง​อยู่​เป็น​นิตย์​

ตัณหา​ของ​เนื้อ​หนัง​และ​ตัณหา​ของ​ตา และ​ความ​ทะนง​ใน​ลาภ​ยศ คือ ทางกว้างที่คนส่วนใหญ่ตอบสนอง และเดินเข้าไปในทางนั้น  เป็นทางที่ไม่สามารถจะพบกับพระเยซูได้ เป็นสภาพแวดล้อมและบรรยากาศของโลกนี้

มัทธิว 16:24  24 ขณะนั้น​พระ​เยซู​จึง​ตรัส​กับ​เหล่า​สาวก​ของ​พระ​องค์​ว่า “ถ้า​ผู้ใด​ใคร่​ตาม​เรา​มา​ให้​ผู้​นั้น​เอาชนะ​ตัวเอง และ​รับ​กางเขน​ของ​ตน​แบก​และ​ตาม​เรา​มา

ถ้าเราดูบริบทของหนังสือมัทธิวตอนนี้ เราจะพบว่า พระเยซูทรงตำหนิความคิด คำแนะนำของเปโตรที่ขอให้พระเยซูอย่าเข้าเมืองเยรูซาเล็มเพราะมีคนปองร้ายพระเยซู แต่พระเยซูจำเป็นต้องเข้า เพราะนี่คือแผนการของพระเจ้าสำหรับพระองค์ที่จะต้องถูกตรึงที่กางเขน จำเป็นที่พระเยซูจะต้องตาย

มัทธิว 16:23,,25-26  23 ​พระ​องค์​จึง​หัน​พระ​พักตร์​ตรัส​กับ​เปโตร​ว่า “อ้าย​ซาตาน​จง​ไป​ให้​พ้น เจ้า​เป็น​เครื่อง​กีด​ขวาง​เรา เพราะ​เจ้า​คิด​อย่าง​คน มิได้​คิด​อย่าง​พระ​เจ้า”…25 เพราะ​ว่า​ผู้ใด​ใคร่​จะ​เอา​ชีวิต​รอด ผู้​นั้น​จะ​เสียชีวิต แต่​ผู้ใด​จะ​เสียชีวิต​เพราะ​เห็น​แก่​เรา ผู้​นั้น​จะ​ได้​ชีวิต​รอด26 เพราะ​ถ้า​ผู้ใด​จะ​ได้​สิ่งของ​สิ้น​ทั้ง​โลก​แต่​ต้อง​เสียชีวิต​ของ​ตน ผู้​นั้น​จะ​ได้​ประโยชน์​อะไร หรือ​ผู้​นั้น​จะ​นำ​อะไร​ไป​แลก​เอา​ชีวิต​ของ​ตน​กลับคืน​มา​

ถ้าพระเยซูฟังคำแนะนำของเปโตรวันนั้น เราทั้งหลายจะไม่มีวันนี้  แต่เพราะพระเยซูทรงรู้ว่า นี่คือแผนการของพระเจ้าสำหรับพระองค์จำเป็นต้องตาย

หนังสือฮีบรูได้กล่าวถึงการเดินทางในแคบของคริสเตียนทุกคน

ฮีบรู 12:1-4 1 เหตุ​ฉะนั้น​เมื่อ​เรา​มี​พยาน​พรั่ง​พร้อม​อยู่​รอบ​ข้าง​เช่นนี้​แล้ว ​ก็​ขอ​ให้​เรา​ละ​ทิ้ง​ทุก​อย่าง​ที่​ถ่วง​อยู่ และ​บาป​ที่​เกาะ​แน่น ขอ​ให้​เรา​วิ่ง​แข่ง​ด้วย​ความ​เพียร​พยายาม ตาม​ที่​ได้​กำหนด​ไว้​สำหรับ​เรา​2 หมาย​เอา​พระ​เยซู​เป็น​ผู้​บุกเบิก​ความ​เชื่อ และ​ผู้​ทรง​ทำ​ให้​ความ​เชื่อ​ของ​เรา​สมบูรณ์ ​พระ​องค์​ได้​ทรง​อดทน​ต่อ​กางเขน เพื่อ​ความ​รื่น​เริง​ยินดี​ที่​ได้​เตรียม​ไว้​สำหรับ​พระ​องค์ ทรง​ถือ​ว่า​ความ​ละอาย​นั้น​ไม่​เป็น​สิ่ง​สำคัญ​และ​พระ​องค์​ได้​ประทับ ณ เบื้อง​ขวา​พระ​ที่​นั่ง​ของ​พระ​เจ้า 3 ท่าน​ทั้ง​หลาย​จง​คิดถึง​พระ​องค์​ผู้​ได้​ทรง​ยอม​ทน​ต่อ​คำ​คัดค้าน​ของ​คน​บาป เพื่อ​ว่า​ท่าน​ทั้ง​หลาย​จะ​ได้​ไม่​รู้สึก​ท้อถอย​4 ​ใน​การ​ต่อสู้​กับ​บาป​นั้น ท่าน​ทั้ง​หลาย​ยัง​ไม่ได้​สู้​จน​ถึงกับ​ต้อง​เสีย​โลหิต​เลย​

ขอให้เราทุกคน จงบากบั่นมุ่งไป ในทางแคบ ที่ต้องทิ้งทุกอย่าง โดยเฉพาะบาปที่เกาะแน่น และในทางแคบนี้ จะต้องวิ่ง ไม่ใช่เดิน เพื่อจะไปให้ไกลจากทางกว้าง และใกล้ประตูทางเข้า เพื่อจะพบกับพระเยซูผู้กำลังจะเสด็จมาอีกครั้ง

1โครินทธ์ 1:8 8 ​พระ​องค์​จะ​ทรง​ให้​ท่าน​มั่นคง​อยู่​จนถึง​ที่สุด เพื่อให้​ท่าน​ปราศจาก​ที่​ติ​ใน​วัน​ของ​พระ​เยซู​คริสต​เจ้า​ของ​เรา​

By admin