“ข่าวดีขึ้นอยู่กับใคร?”

ข่าวดีขึ้นอยู่กับใคร  ขึ้นอยู่กับว่า คนฟังเป็นใคร  อยากจะฟังอะไร คาดหวังอะไร  ถ้าเป็นคนป่วยก็อยากจะฟังว่าอาการป่วยจะหายดี  ถ้าเป็นคนทำมาหากินก็อยากจะฟังว่า ธุรกิจของตนเองไปโลด ถ้าเป็นนักเรียนก็อยากจะฟังผลคะแนนการสอบที่ดี ถ้าเป็นผู้ลงสมัครับเลือกตั้ง ก็อยากจะฟังผลคะแนนของตนเอง เปรียบเทียบกับคู่แข่ง ถ้าเป็นลูกจ้างก็อยากจะรับข่าวดีเรื่องเงินเดือน  แม้แต่ผู้รับใช้พระเจ้าก็อยากจะเห็นแนวโน้มของคริสตจักรเติบโต ข่าวดีขึ้นอยู่กับความมุ่งหวังของแต่ละคนจะได้รับคำตอบอย่างที่คาดหวังไว้

ส่วนใหญ่แล้ว เรามักให้ความสนใจว่า  ใครคือผู้ส่งข่าวดี พระคัมภีร์ที่เราจะศึกษาด้วยกันในเช้าวันนี้ ปรากฏในหนังสือ

ลูกา 4:16-18 16 แล้ว​พระ​องค์​เสด็จ​มาถึง​เมือง​นาซาเร็ธ เป็น​ที่​ซึ่ง​พระ​องค์​ทรง​เจริญ​วัย​ขึ้น ​พระ​องค์​เสด็จ​เข้า​ไป​ใน​ธรรม​ศาลา​ใน​วันสะบาโต​ตาม​เคย และ​ทรง​ยืน​ขึ้น​เพื่อ​จะ​อ่าน​พระ​ธรรม​17 เขา​จึง​ส่ง​พระ​คัมภีร์​อิสยาห์​ผู้เผย​พระ​วจนะ​ให้แก่​พระ​องค์ เมื่อ​พระ​องค์​ทรง​คลี่​หนังสือ​นั้น​ออก ​ก็​ค้นพบ​ข้อ​ที่​เขียน​ไว้​ว่า 18 ​พระ​วิญญาณ​แห่ง​พระ​เป็นเจ้า​ทรง​อยู่​เหนือ​ข้าพเจ้า เพราะ​ว่า​พระ​องค์​ได้​ทรง​เจิม​ตั้ง​ข้าพเจ้า​ไว้ เพื่อ​นำ​ข่าว​ดี​มายัง​คน​ยากจน ​พระ​องค์​ได้​ทรง​ใช้​ข้าพเจ้า​ให้​ร้อง​ประกาศ​อิสรภาพ​แก่​บรรดา​เชลย ให้​ประกาศ​แก่​คน​ตา​บอด​ว่า​จะ​ได้​เห็น​อีก ให้​ปล่อย​ผู้​ถูก​บีบ​บังคับ​เป็น​อิสระ

คนในธรรมศาลายื่นหนังสืออิสยาห์ให้กับพระเยซู ซึ่งมีหลายบทหลายตอน แต่พระเยซูทรงเลือกที่จะอ่านตอนนี้ เพราะนี่คือข่าวดี ข่าวที่คนอิสราเอลเมื่อสองพันปีที่แล้ว ภายใต้การปกครอง กดขี่ข่มเหงของอาณาจักรโรม  คนยิวตกอยู่ในสภาพคนยากจน (จนมากๆ) เป็นเชลย คนถูกบีบบังคับ และคนที่มองไม่เห็นอนาคต (เหมือนคนตาบอด) อนาคตมืดมน สิ้นหวัง

ลูกา 4:21-22  21 ​พระ​องค์​จึง​เริ่ม​ตรัส​แก่​เขา​ว่า “คัมภีร์​ตอนนี้​ที่​ท่าน​ได้​ยิน​กับ​หู​ของ​ท่าน​ก็​สำเร็จ​ใน​วันนี้​แล้ว” 22 คน​ทั้ง​ปวง​ก็​กล่าว​ชมเชย​พระ​องค์ และ​ประหลาด​ใจ​ด้วย​ถ้อยคำ​อัน​ประกอบด้วย​คุณ ซึ่ง​ออกมา​จาก​พระ​โอษฐ์​ของ​พระ​องค์ และ​ว่า “คน​นี้​เป็น​บุตร​ของ​โยเซฟ​มิใช่​หรือ”

คำตรัสของพระเยซูคริสต์ ได้หนุนใจให้คนยิวในธรรมศาลาเวลานั้น ได้ให้ความเชื่อมั่นในพระสัญญาของพระเจ้า เกี่ยวกับพระเมสสิยาห์ ผู้ที่พระเจ้าทรงเจิมไว้เพื่อจะนำการปลดปล่อยมาให้กับคนอิสราเอล  พระเยซูทรงรอบรู้ว่า อะไรคือข่าวดีสำหรับผู้ฟัง  วันนี้ เราให้พระเยซูนำข่าวดี หรือเราเลือกที่จะให้อย่างอื่นนำข่าวดี  เราเลือกที่จะฟังข่าวจากแหล่งข่าวใด  Ex. หากเราฟังข่าวต่างๆด้วยใจที่วินิจฉัย วิเคราะห์ เราจะพบว่า สื่อต่างๆ พยายามจะเลือกข่าวที่คนสนใจ อยากฟัง เพื่อจะเรียกเรตติ้งให้กับสื่อของตนเอง ไม่มีสื่อไหนที่จะนำเสนอข่าวที่คนไม่อยากฟัง

น่าเสียดายที่ข่าวดี ถูกดับลงด้วยคำพูดเชิงดูถูก ดูหมิ่น  “คน​นี้​เป็น​บุตร​ของ​โยเซฟ​มิใช่​หรือ”  การมองที่อาชีพ พื้นเพการศึกษา ฐานะ ของพระเยซู ทำให้ข่าวดีถูกหยุดไว้เพียงแค่ได้ยิน แต่ไม่ไปต่อกับประสบการณ์กับพระเยซูคริสต์ผู้เป็นข่าวดี  โปรดสังกตุว่า พระเยซูไม่ใช่แค่ผู้ส่งข่าวดี แต่พระองค์เป็นข่าวดี

อิสยาห์ 52:7  7 เท้า​ของ​ผู้นำ​ข่าว​ดี​มา ​ก็​งาม​สัก​เท่าใด​ที่​บน​ภูเขา ผู้​โฆษณา​สันติภาพ ผู้นำ​ข่าว​ดี​ของ​เรื่อง​ดี ผู้​โฆษณา​ความ​รอด ผู้​กล่าว​แก่ศิ​โยน​ว่า “​พระ​เจ้า​ของ​เจ้า​ทรง​ครอบ​ครอง”

พระคัมภีร์ได้บอกให้มองที่เท้าของผู้นำข่าวดี ไม่ใช่ให้มองที่อื่น  เท้าคือส่วนที่ต่ำที่สุด แต่เป็นเท้าของผู้ที่นำข่าวดี ดังนั้น ส่วนที่ต่ำที่สุด ก็งดงามที่สุด  App. วันนี้ เรากำลังมองข่าวดีที่มาจากพระเจ้าที่ไหน  ในพระคัมภีร์เดิมมีบทเรียนสำหรับเราในวันนี้  เรื่องราวเกิดขึ้นในสมัยของผู้เผยพระวจนะเอลีชา ในหนังสือ  2 พงศ์กษัตริย์ 6-7 จะนำมาแต่ละชอต ของข่าวดี และข่าวร้ายในเวลาเดียวกัน

1.การฟังข่าวอย่างมีสติ   2พงศ์กษัตริย์6:8-10

8 ฝ่าย​พระ​ราชา​แห่ง​ซีเรีย​รบ​พุ่ง​กับ​อิสราเอล ​พระ​องค์​ตรัส​ปรึกษา​กับ​ข้าราชการ​ของ​พระ​องค์​ว่า “เรา​จะ​ตั้ง​ค่าย​ของ​เรา​ที่​นั่นๆ 9 แต่​คน​แห่ง​พระ​เจ้า​ส่ง​ข่าว​ไป​ยัง​พระ​ราชา​แห่ง​อิสราเอล​ว่า ‘ขอ​พระ​องค์​ทรง​ระวัง​อย่า​ผ่าน​มา​ทาง​นั้น เพราะ​คน​ซีเรีย​กำลัง​ยก​ลง​ไป​ที่​นั่น’ ”10 และ​พระ​ราชา​แห่ง​สราเอล​ทรง​ใช้​ให้​ไป​ยัง​สถานที่​ซึ่ง​คน​แห่ง​พระ​เจ้า​บอก​ให้ ท่าน​เคย​เตือน​พระ​องค์​ดังนี้​แหละ ​พระ​องค์​จึง​ทรง​ระวัง​ตัว​ได้​ที่​นั่น​มิใช่​เพียง​ครั้ง​สอง​ครั้ง

พระราชาของอิสราเอลรอดการถูกปองร้ายทุกครั้ง จนพระราชาซีเรียระแวงคนของตนเองว่า จะมีหนอนบ่อนไส้ ทำไมแผนที่วางไว้เป็นการลับจึงล่วงรู้ไปถึงอีกฝ่าย ข้าราชการของพระราชาซีเรียจึงตอบว่า

2พงศ์กษัตริย์ 6:12 12 ข้าราชการ​คน​หนึ่ง​ของ​พระ​องค์​ทูล​ว่า “ข้า​แต่​พระ​ราชา เจ้านาย​ของ​ข้า​พระ​บาท ไม่​มี​ผู้ใด​พระ​เจ้า​ข้า แต่​เอลีชา​ผู้เผย​พระ​วจนะ​ซึ่ง​อยู่​ใน​อิสราเอล​ทูล​บรรดา​ถ้อยคำ ซึ่ง​พระ​องค์​ตรัส​ใน​ห้อง​บรรทม​ของ​พระ​องค์​แก่​พระ​ราชา​แห่ง​อิสราเอล”

แม้แต่ศัตรูก็รู้ว่า ผู้รับใช้ของพระเจ้า(เอลีชา) คือคนที่ช่วยชีวิตพระราชาของอิสราเอล ข่าวดีของผู้รับใช้ สามารถหันเส้นทางให้พระราชาของอิสราเอลไปในทางที่ปลอดภัย ไม่ใช่เพียงครั้งสองครั้ง  แต่ความหมายของพระคัมภีร์ คือทุกครั้ง

เอลีชาเป็นผู้เผยพระวจนของพระเจ้า นั่นคือ เอลีชารับใช้พระเจ้า รับสนองคำบัญชาจากพระเจ้า เพื่อนำข่าวร้ายให้กลายเป็นดี ด้วยการเตือนพระราชา และเมื่อพระราชาเชื่อฟังผู้รับใช้ของพระเจ้า พระราชปลอดภัย  แม้จะเป็นพระราชา ที่มีฐานะสูง แต่พระราชาก็มีโอกาสที่จะพลาดท่าเสียทีได้ หากพระราชไม่ฟังคำเตือน การนำที่มาจากพระเจ้า

สุภาษิต 16:32  32 บุคคล​ผู้​โกรธ​ช้า​ก็​ดีกว่า​คน​มี​กำลัง​มาก และ​บุคคล​ผู้ปกครอง​จิตใจ​ของ​ตนเอง​ก็​ดีกว่า​ผู้​ที่​ตี​เมือง​ได้

 

หนังสือสุภาษิตบอกเราว่า การปกครองใจของตนเองได้ คือการเป็นพระราชากับใจของตนเอง  การที่จะเป็นพระราชาให้กับชีวิตของตนเองได้อย่างปลอดภัย ต้องฟังได้ทั้งข่าวดีและข่าวร้าย และมีความสามารถรับมือกับทั้งสองข่าว  App. มีคนไม่น้อย ชอบฟังข่าวดีอย่างเดียว รับไม่ได้กับข่าวร้าย (สิ่งที่ตนเองไม่อยากฟัง) และมักแสดงออกด้วยความโกรธ ไม่พอใจ  และตอบสนองได้ไม่ดี  คนที่ฟังข่าวอย่างมีสติ จะต้องหาแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ และในเวลานั้น คนของพระเจ้าน่าเชื่อถือที่สุด เพราะมีความแม่นยำ 100% ในการให้ข่าว ดูได้จากสถิติการรอดจากแผนการร้ายของพระราชาอิสราเอล ไม่ใช่แค่ครั้งสองครั้ง แต่ทุกครั้ง ทำให้อีกฝ่ายเริ่มสงสัยกันเองว่า แผนการร้ายรั่วไหลออกไปได้อย่างไร

วันนี้ เรากำลังฟังข่าวดี หรือข่าวร้าย วันนี้ เราพร้อมที่จะรับมือกับข่าวได้ทั้งสองอย่างหรือไม่  ข้าพเจ้าชอบบทเพลงหนึ่งที่ร้องว่า ทรงเปลี่ยนความเศร้าโศกและการคร่ำครวญ ให้กลายเป็นความชื่นชมยินดีและเริงรื่น นั่นคือ พระเจ้าทรงสามารถเปลี่ยนข่าวร้ายให้กลายเป็นดีได้ ผ่านผู้รับใช้ของพระองค์ ผู้รับใช้ของพระคริสต์ไม่เป็นเพียงผู้ส่งข่าวดี แต่เป็นข่าวดีได้  อย่าให้เราเป็นแค่ผู้ส่งข่าวดี  ในหนังสือ  การเป็นสาวกอย่างถึงรากถึงโคน มีประโยคหนึ่งได้กล่าวว่า พระเจ้ามีข่าวดี และเราไม่ใช่เครื่องมือสื่อสาร แต่เราเป็นระบบสื่อสารข่าวดี  นั่นหมายความว่า เราเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับข่าวดี เราเป็นข่าวดี เพราะเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี

2.เป็นระบบส่งข่าวดี   2พงศ์กษัตริย์ 6:13-17

13 ​พระ​องค์​จึง​ตรัส​ว่า “จง​ไป​หา​ดู​ว่า เขา​อยู่​ที่​ไหน เพื่อ​เรา​จะ​ใช้​คน​ไป​จับ​เขา​มา” มี​คน​ทูล​พระ​องค์​ว่า “ดู​เถิด เขา​อยู่​ใน​โดธาน”14 ​พระ​องค์​จึง​ทรง​ส่ง​ม้า รถ​รบ และ​กองทัพ​ใหญ่ เขา​ไป​กัน​ใน​กลางคืน​และ​ล้อม​เมือง​นั้น​ไว้ 15 เมื่อ​คน​ใช้​ของ​คน​แห่ง​พระ​เจ้า​ตื่น​ขึ้น​เวลา​เช้าตรู่​และ​ออกไป ดู​เถิด กองทัพ​พร้อม​กับ​ม้า​และ​รถ​รบ​ก็​ล้อม​เมือง​ไว้ และ​คน​ใช้​นั้น​บอก​ท่าน​ว่า “อนิจจา นาย​ของ​ข้าพเจ้า เรา​จะ​ทำ​อย่างไร​ดี”16 ท่าน​ตอบ​ว่า “อย่า​กลัว​เลย เพราะ​ฝ่าย​เรา​มี​มากกว่า​ฝ่าย​เขา”17 แล้ว​เอลีชา​ก็​อธิษฐาน​ว่า “ข้า​แต่​พระ​เจ้า ขอ​ทรง​เบิก​ตา​ของ​เขา​เพื่อ​เขา​จะ​ได้​เห็น” และ​พระ​เจ้า​ทรง​เบิก​ตา​ของ​ชาย​หนุ่ม​คน​นั้น และ​เขา​ก็​ได้​เห็น​และ​ดู​เถิด ที่​ภูเขา​ก็​เต็ม​ไป​ด้วย​ม้า และ​รถ​รบ​เพลิง​อยู่​รอบ​เอลีชา​

เอลีชามองเห็นตั้งแต่ต้นแล้ว่า เพราะ​ฝ่าย​เรา​มี​มากกว่า​ฝ่าย​เขา  ข่าวร้ายมักจะนำไปสู่ความกลัว แต่ด้วยสายตาของคนที่มีข่าวดี  ทำให้เปิดตาใจในมิติที่มองเห็นแตกต่างจากคนที่มีข่าวร้าย  จากความกลัว กลายเป็นความกล้าหาญที่จะอธิษฐานสวนกระแส

ยากอบ 5:16ข …..คำ​อธิษฐาน​ของ​ผู้​ชอบธรรม​นั้น​มี​พลัง​ทำ​ให้​เกิดผล​

เอลีชาไม่เพียงอธิษฐานขอการเปิดตาให้คนรับใช้ของตนเองมองเห็นในมิติที่คนธรรมดามองไม่เห็น แต่เอลีชายังอธิษฐานขอให้อีกฝ่ายมองไม่เห็น และตาบอด นอกจากเอลีชาจะไม่หนีการตามจับ เอลีชายังเผชิญหน้าและนำทางให้คนเหล่านั้นเดินตามเข้าไปในเมืองจนคนเหล่านั้นถูกจับเป็นเชลย

2พงศ์กษัตริย์ 6:19-21, 22-23

19 และ​เอลีชา​บอก​คน​เหล่า​นั้น​ว่า “ไม่ใช่​ทาง​นี้ และ​ไม่ใช่​เมือง​นี้ จง​ตาม​ข้า​มา และ​ข้า​จะ​พา​ไป​ยัง​คน​นั้น ซึ่ง​เจ้า​แสวงหา” และ​ท่าน​ก็​พา​เขา​ไป​กรุง​สะมาเรีย​20 และ​อยู่​มา​พอ​เข้า​ไป​ใน​กรุง​สะมาเรีย เอลีชา​ก็​ทูล​ว่า “ข้า​แต่​พระ​เจ้า ขอ​ทรง​เบิก​ตา​ของ​คน​เหล่า​นี้ เพื่อ​เขา​จะ​เห็น​ได้” ​พระ​เจ้า​จึง​ทรง​เบิก​ตา​ของ​เขา​ทั้ง​หลาย​และ​เขา​ทั้ง​หลาย​ก็​เห็น และ​นี่​แน่ะ เขา​มา​อยู่​กลาง​กรุง​สะมาเรีย​21 และ​เมื่อ​พระ​ราชา​แห่ง​อิสราเอล​เห็น​เขา​เข้า จึง​ตรัส​แก่​เอลีชา​ว่า “บิดา​ของ​ข้าพเจ้า​จะ​ให้​ข้าพเจ้า​ฆ่า​เขา​เสีย​หรือ จะ​ให้​ข้าพเจ้า​ฆ่า​เขา​เสีย​หรือ”

 22 ท่าน​ก็​ทูล​ตอบ​ว่า “ขอ​พระ​องค์​อย่า​ทรง​ประหาร​เขา​เสีย ​พระ​องค์​จะ​ประหาร​คน​ที่​จับ​มา​เป็น​เชลย​เสีย​ด้วย​ดาบ และ​ด้วย​ธนู​ของ​พระ​องค์​หรือ ขอ​ทรง​โปรด​จัด​อาหาร​และ​น้ำ​ให้​เขา​รับประทาน​และ​ดื่ม แล้ว​ปล่อย​ให้​เขา​ไป​หา​เจ้านาย​ของ​เขา​เถิด”23 ​พระ​องค์​จึง​ทรง​จัดการ​เลี้ยง​ใหญ่​ให้​เขา และ​เมื่อ​เขา​ได้​กิน​และ​ดื่ม​แล้ว​ก็​ทรง​ปล่อย​เขา​ไป และ​เขา​ทั้ง​หลาย​ได้​กลับไป​หา​เจ้านาย​ของ​ตน และ​พวก​ซีเรีย​มิ​ได้มา​ปล้น​ใน​แผ่นดิน​อิสราเอล​อีก​เลย​

ระบบสื่อสารข่าวดี สามารถเปลี่ยนข่าวร้ายให้กลายเป็นดี เปลี่ยนสถานการณ์ที่เป็นรองกลายเป็นเหนือศัตรู  เปลี่ยนความกลัวให้กลายเป็นความกล้าหาญ  เปลี่ยนศัตรูให้กลายเป็นเชลย  พระเยซูได้ตรัสถึงการเป็นระบบส่งข่าวดีของพระองค์เองในหนังสือลูกา

ลูกา 4:18-21 18 ​พระ​วิญญาณ​แห่ง​พระ​เป็นเจ้า​ทรง​อยู่​เหนือ​ข้าพเจ้า เพราะ​ว่า​พระ​องค์​ได้​ทรง​เจิม​ตั้ง​ข้าพเจ้า​ไว้ เพื่อ​นำ​ข่าว​ดี​มายัง​คน​ยากจน ​พระ​องค์​ได้​ทรง​ใช้​ข้าพเจ้า​ให้​ร้อง​ประกาศ​อิสรภาพ​แก่​บรรดา​เชลย ให้​ประกาศ​แก่​คน​ตา​บอด​ว่า​จะ​ได้​เห็น​อีก ให้​ปล่อย​ผู้​ถูก​บีบ​บังคับ​เป็น​อิสระ 19 และ​ให้​ประกาศ​ปี​แห่ง​ความ​โปรด​ปราน​ของ​พระ​เป็นเจ้า 20 แล้ว​พระ​องค์​ทรง​ม้วน​หนังสือ​ส่งคืน​ให้แก่​เจ้าหน้าที่ แล้ว​ทรง​นั่ง​ลง และ​ตา​ของ​คน​ทั้ง​ปวง​ใน​ธรรม​ศาลา​ก็​เพ่ง​ดู​พระ​องค์​21 ​พระ​องค์​จึง​เริ่ม​ตรัส​แก่​เขา​ว่า “คัมภีร์​ตอนนี้​ที่​ท่าน​ได้​ยิน​กับ​หู​ของ​ท่าน​ก็​สำเร็จ​ใน​วันนี้​แล้ว”

ทุกสายตาจ้องมองที่พระเยซูคริสต์ พระเยซูกำลังหมายถึงพระองค์เอง เป็นข่าวดี เป็นระบบส่งข่าวดี  และสาวกของพระองค์ก็คือข่าวดี และเป็นระบบส่งข่าวดี อย่าให้มารซาตานมาหลอกลวงเรา ที่จะมองว่า เราเป็นเพียงแค่เครื่องมือส่งข่าวดี และในความอ่อนแอ ความผิดพลาด ความจำกัดของเรา ทำให้เรา รู้สึกว่า เรายังไม่สามารถเป็นเครื่องมือส่งข่าวได้

2ทิโมธี 2:20-21  20 ​ใน​บ้าน​ใหญ่​หลัง​หนึ่งๆ มิได้​มี​แต่​ภาชนะ​ทอง​และ​เงิน​เท่านั้น แต่​มี​ภาชนะ​ไม้​และ​ภาชนะ​ดิน​ด้วย บ้าง​ก็​เพื่อ​ศิลปะ และ​บ้าง​ก็​สามัญ​21 ถ้า​ผู้ใด​ชำระ​ตัว​ให้​พ้น​จาก​สิ่ง​ที่​ไม่​มี​ค่า เขา​ก็​จะ​เป็น​ภาชนะ​ที่​มี​ค่า ซึ่ง​ชำระ​ให้​บริสุทธิ์​แล้ว เหมาะ​ที่​เจ้า​ของ​เรือน​จะ​ใช้​ให้​เป็น​ประโยชน์ พร้อม​กับ​การ​ดี​ทุก​อย่าง​

ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่ราคา ความสูงส่ง ของภาชนะ แต่ประเด็นสำคัญอยู่ที่การรับการชำระ คือสิ่งที่ตัดสินการเป็นระบบส่งข่าวดีต่างหาก ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงในความบริสุทธิ์ คือการเป็นระบบส่งข่าวดีของพระเจ้า

วันนี้ สิ่งที่เห็นชัด คือระบบสามจี กำลังจะเพิ่มจีมากขึ้นเป็นสี่จี ห้าจี ทำให้เครื่องมือสื่อสารราคาถูกสามารถรับสัญญาณและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งที่ตัดสินคือระบบ ไม่ใช่ราคาของเครื่องโทรศัพท์ จึงทำให้มีการแข่งขันกันที่ระบบส่งสัญญาณ

ข่าวดี อาจเป็นข่าวร้าย  หากคริสเตียนเป็นเพียงแค่เครื่องมือสื่อสาร ที่อาศัยระบบของโลกในการส่งข่าวดี  แต่ถ้าคริสตียน คือตัวเราทุกคน รับการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างพระเยซูคริสต์เจ้า ไม่ว่าจะถูกต่อต้าน ขัดขวางอย่างไร  ระบบส่งข่าวดี ก็ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงข่าวดีที่ส่งไปได้ ยังสามารถนำทาง และเปลี่ยนอุปสรรคให้กลายเป็นอุปกรณ์ เปลี่ยนข่าวร้ายให้กลายเป็นดีได้

ให้เราสำรวจตัวเราเองว่า เรากำลังดำเนินชีวิตกับข่าวดี หรือข่าวร้าย ขึ้นอยู่กับใคร

 “ข่าวดีขึ้นอยู่กับใคร?”

1.การฟังข่าวอย่างมีสติ  

2.เป็นระบบส่งข่าวดี  

By admin