“คำตอบ…จากค่าย”

สวัสดีพี่น้องที่รักในพระคริสต์ เราเพิ่งกลับจากค่ายคริสตจักรทัศนาจร ภายใต้หัวข้อ “ครอบครัวเดียวกัน” ด้วยโจทย์ว่า “เราจะรักกันได้อย่างไร?” คำตอบ…จากค่ายครั้งนี้ ได้จากจิ๊กซอว์เล็กๆที่แต่ละคนที่อยู่ในค่าย ในบทบาทของตนเอง เริ่มต้นจากการเดินทางที่แสนหวานเย็น 5 ชั่วโมงจากกรุงเทพถึงปรานบุรี ทำให้ผิดแผน พี่น้องที่นั่งรถบัสไป ต้องทนหิวไปจนถึงบ่ายแก่ๆ โดยเฉพาะทีมทำอาหาร ไปถึงก็ต้องรีบทำอาหาร ตั้งหม้อ ตั้งกระทะ ล้างอาหารทะเลกันทุกลักทุเล บรรยากาศมื้อเย็นวันแรก คือกินมาราธอน กินและก็กิน อาหารทะเลให้สะใจไปเลย ขอบคุณพระเจ้า แม้บางคนจะรู้สึกว่า หวานเย็น กลายเป็นร้อนรุ่มและขมขื่นบางขณะ ก็ยังเป็นอะไรที่เป็นคำตอบว่า “เราจะรักกันได้อย่างไร?” ทำให้ข้าพเจ้าคิดถึงพระธรรมสดุดีตอนหนึ่ง ที่กล่าวว่าพระเจ้าทรงบังคับบัญชาพระพร ณ ที่นั่น สดุดี 133:1-3 1 ดูเถิด ซึ่งพี่น้องอาศัยอยู่ด้วยกันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ก็เป็นการดี และน่าชื่นใจมากสักเท่าใด 2 เหมือนน้ำมันประเสริฐอยู่บนศีรษะไหลอาบลงมาบนหนวดเครา บนหนวดเคราของอาโรน ไหลอาบลงมาบนคอเสื้อของท่าน 3 เหมือนน้ำค้างของภูเขาเฮอร์โมน ซึ่งตกลงบนเทือกเขาศิโยน เพราะว่าพระเจ้าทรงบังคับบัญชาพระพรที่นั่น คือชีวิตจำ เริญเป็นนิตย์ เรามักจะมองมุมของพระพรเป็นแต่ความสุขแสนหวาน ไม่มีปัญหา แต่เราไม่เคยมองว่า บางทีความทุกข์ ความไม่เป็นสุข หรือความขมในบางจังหวะ อาจเป็นพระพรที่ทำให้เราสามารถค้นหาคำตอบว่า เราจะรักกันได้อย่างไร? สำหรับข้าพเจ้า ที่ต้องเจอกับห้องพักพิเศษ ที่มีตุ๊กแกมาร้องอยู่ข้างหน้าห้อง เหมือนจงใจปลุกไม่ให้หลับ เลยไม่หลับซะเลย เพราะว่า มันทรมานมากกับการถูกปลุกเกือบทุกสิบนาที พอเคลิ้มจะหลับ ก็ถูกปลุก ด้วยเสียงสนั่นแบบสเตอรีโอรอบทิศทาง เมื่อเล่าให้พี่สาวของข้าพเจ้าฟัง เขาบอกว่า เขาเคยดูภาพยนต์เกี่ยวกับการทรมานคนด้วยการให้เคลิ้มหลับและปลุกให้ตื่น ปล่อยให้เคลิ้มหลับอีก และก็ปลุกให้ตื่น เป็นวิธีทรมานที่ทำให้คนๆนั้น เครียด และสุดท้ายทำลายสมอง มีคำพูดหนึ่งกล่าวว่า พระเจ้าทรงสื่อสารกับเราทางสมอง นี่เป็นวิธีของมารซาตานชัดๆ ข้าพเจ้าไม่เคยดูหนังประเภทนี้ แต่ในคืนเกิดเหตุ ข้าพเจ้ารู้สึกอย่างเดียว คือต้องการคำอธิษฐานเผื่อจากทีมและคนใกล้ตัว มีวิธีเดียวที่จัดการกับสง ครามฝ่ายวิญญาณได้ คืออธิษฐาน ที่ข้าพเจ้าเรียกว่า สงครามฝ่ายวิญญาณ เพราะข้าพเจ้าจะต้องทำภารกิจฝ่ายวิญญาณ คือ ประกอบพิธีบัพติศมาในน้ำในวันรุ่งขึ้น และเทศนาในคืนวันนั้นส่วนภารกิจที่ต้องทำแบบใช้กำลังเรี่ยวแรง ก็คือการกำกับดูแลเรื่องอาหารของค่าย (ขอบคุณพระเจ้าที่มีพี่น้องที่มีสปิริตที่หลายคน จึงทำให้ไม่มีปัญหาติดขัด แม้ไม่มีข้าพเจ้าในงานนั้น (เสร็จจากอธิษฐานรุ่งอรุณ ข้าพเจ้างีบได้หนึ่งชั่วโมง ตื่นมาด้วยความไม่สดชื่น แต่ด้วยคำอธิษฐาน ข้าพเจ้ามีพลังกลับคืนมาได้จนภารกิจทุกอย่างสำเร็จด้วยดี พระเจ้าทรงบังคับบัญชาพระพร ณ ที่นั่น ที่ที่เราพยายามว่า “เราจะรักกันได้อย่างไร” แค่นี้ มารก็ทำอะไรเราไม่ได้แล้ว ข้าพเจ้ารู้สึกได้รับพระพร ได้รับคำตอบ….จากค่าย พี่น้องรู้สึกเหมือนข้าพเจ้าไม๊

By admin