“ผู้รับใช้ของพระคริสต์…พร้อมที่จะแจกจ่าย”

บางคนคิดว่า ต้องมีก่อน ถึงจะพร้อม สำหรับการแจกจ่าย บางคนรอคำว่า พร้อม ตลอดชีวิตไม่เคยให้ ไม่เคยแจกแก่ใคร เพราะตัวเองยังรู้สึกว่า ยังมีไม่พอ ยังไม่พร้อม และบางคนคิดว่า คนอื่นต้องพร้อมที่จะให้กับตัวเอง

ข้าพเจ้าจะเล่าประสบการณ์ล่าสุดที่เพิ่งเกิดขึ้น กับคำว่า พร้อมที่จะแจกจ่าย เมื่อศุกร์ต้นเดือน ข้าพเจ้าได้ไปอธิษฐานร่วมกับบรรดาศิษยาภิบาลคริสตจักรต่างๆของฝั่งธนบุรี เราเป็นเครือข่ายกัน เรียกตัวเองว่า สมาพันธ์คริสตจักรฝั่งธนบุรี และให้ศิษยาภิบาลของคริสตจักรแต่ละแห่งออกมาเสนอหัวข้ออธิษฐาน มีคริสตจักรหนึ่ง ออกมา และพูดว่า คริสตจักรของเขา มีปัญหาเสาปูนห้องครัวแตก เห็นเหล็ก เหมือนเสากำลังจะหัก แล้วอาจารย์ท่านนั้นก็หันมาทางข้าพเจ้าและพูดว่า ต้องขออาจารย์ช่วยหาเงินซ่อมโบสถ์ให้เขา ตอนนั้น ข้าพเจ้ายังคิดอยู่ว่า จะเอาเงินที่ไหนมาซ่อมโบสถ์ให้เขา อยากช่วย เคยคิด และยังคิด แต่วันนั้นคือวันที่รู้สึกว่า ต้องช่วย ผ่านไปหลายวัน คิดอยู่เหมือนกันว่า จะจัดงบประมาณพันธกิจที่พี่น้องสัญญาถวาย ที่เกินงบที่ตั้งไว้ และจะตั้งงบใหม่สำหรับช่วยเหลือโบสถ์นี้ แต่เงินยังไม่มา ปรากฏว่า เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว มีเงินมาจากอเมริกาส่งเข้ามา 10,000 เหรียญ เป็นสิบเท่าของงบที่ข้าพเจ้าคิดว่าจะใช้สำหรับซ่อมโบสถ์ให้กับคริสตจักรนั้น  ทำให้ข้าพเจ้าตัดสินใจทันทีว่า เอาเงินส่วนนี้ช่วยซ่อมโบสถ์นี้ไปก่อนเลย ให้ช่างตีราคา เดือนหน้าลงมือทำ ฮาเลลูยา เพียงแค่มีภาระใจ ก็คือความพร้อมที่แจกจ่าย และพระเจ้าก็ทรงสนับสนุนภาระใจทันที พระองค์จะทำให้เราพร้อม  และทำให้ภาระใจที่เรามีต่อคนอื่นเป็นจริง

เมื่อข้าพเจ้าไปพังงาเดือนแรกของเหตุการณ์สึนามิพัดเข้ามาสร้างความเสียหาย ได้ขอเข้าไปในฐานทัพเรือพังงา เพื่อจะขอสำรวจความเสียหาย พอเข้าที่ตึกหน้าที่พวกนายทหารเรือนั่งล้อมโต๊ะกันอยู่ ข้าพเจ้าบอกเขาว่า จะมาสำรวจความเสียหาย คนหนึ่งในนั้นพูดว่า มันเสียหายมาก เกินกว่าที่จะช่วยได้ แล้วเขาก็หัวเราะกัน ข้าพเจ้าก็ยังพูดกับเขาว่า อยากเห็น เผื่อจะช่วยอะไรได้บ้าง จนมีนายทหารอีกคนหนึ่งอาสา บอกว่า ผมจะขับรถพาไปตระเวนดู เพราะภายในมีระเบิดในคลังแสงกระจัดกระจายอยู่ เดี๋ยวจะเป็นอันตราย  ตอนนั้นไปกับอ.สุกิจ และภรรยา และทีมของเขา ขับรถตาม พอเสร็จ ข้าพเจ้าก็บอกเขาว่า ช่วยเขียนว่าต้องการอะไร พอข้าพเจ้ากลับไปอีกครั้ง มีรายการ ต้องการตู้เย็น 400 เครื่อง เตารีด 400 อัน จักรยาน 400 คัน โน่นนี่นั่น แม้แต่ครกตำน้ำพริกก็ต้องการ ตอนนั้นรวมกับของชาวบ้าน 7000 ครก ขณะที่เขากำลังรายงาน ตอนนั้นข้าพเจ้าไปกับทีมที่ติดตามจากใจสมานอีกประมาณสัก 20 คน เรากำลังสำรวจความต้องการของครอบครัวทหารเรือ (ในนั้นประมาณสัก 3000 คน 400 ครอบครัว ไม่ทันจะเสร็จ นายทหารคนนั้นก็วิ่งมาบอกข้าพเจ้าว่า ไม่ต้องแล้ว อาจารย์ ทางสถานทูตอเมริกาบริจาคตู้เย็น 400 เครื่อง ข้าพเจ้าก็บอกน้องที่จดว่า ตัดรายการออกไป ตอนนั้นรู้แต่ว่า จดรายการที่พวกเขาต้องการ อันไหนไม่ต้องการแล้วก็ตัดออกไป คนจดรายการอยู่ซอย 6 น้องเขาก็ประหลาดใจ พูดว่า ทำไม ได้เร็วจัง แล้วข้าพเจ้าก็นำรายการกลับกรุงเทพ ไม่รู้ว่าจะเอาตังค์ที่ไหนซื้อให้ รู้แต่ว่า มีรายการความต้องการของคนแล้ว

ในเวลาต่อมา ข้าพเจ้าสามารถสั่งซื้อจักรยาน 400 คน ส่งจากกรุงเทพ ต่อมา เตารีดอีก 400 อันจากโลตัสภูเก็ต ส่งมาพังงา ข้าพเจ้าไปสั่งซื้อที่นั่น อะไรอีกมากมายก็ตามมา แค่จุดเริ่มต้นของภาระใจ ที่เดินเข้าไปในฐานทัพเรือพังงา   ข้าพเจ้าเรียนรู้จากประสบการณ์เรื่องนี้การพร้อมที่จะแจกจ่าย มักจะมาจากการมีภาระใจอยากแจกจ่า อยากให้ (มักจะคิดจากจุดที่ไม่มี)

ในคำอุปมาของพระเยซูคริสต์ตอนหนึ่งในหนังสือลูกาได้กล่าวถึงคนต้นเรือนกับพวกคนใช้สำหรับแจกอาหารตามเวลา มีความหมายแห่งสิทธิอำนาจ และการจัดเตรียมของพระเจ้าอยู่ในนั้น เราจะมาดูกุญแจสำคัญของการเป็นผู้รับใช้ของพระคริสต์….พร้อมที่จะแจกจ่าย

ลูกา 12:42-44 42 องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ตรัส​ว่า “ใคร​เป็น​คน​ต้น​เรือน​สัตย์​ซื่อ​และ​ฉลาด ที่​นาย​ได้​ตั้ง​ไว้​เหนือ​พวก​คน​ใช้​สำหรับ​แจก​อาหาร​ตาม​เวลา​43 เมื่อ​นาย​มา​พบ​เขา​กระทำ​อยู่​อย่าง​นั้น บ่าว​ผู้​นั้น​ก็​จะ​เป็น​สุข​44 เรา​บอก​ความ​จริง​แก่​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ว่า นาย​จะ​ตั้ง​เขา​ไว้​ให้​ดูแล​บรรดา​ข้าว​ของ​ของ​ท่าน​

พวก​คน​ใช้​สำหรับ​แจก​อาหาร​ตาม​เวลา  พวกคนใช้ ในคำนี้ มาจากรากศัพท์ภาษากรีกคำว่า รอคอยที่จะรับใช้ และคำว่า แจกอาหาร ในที่นี้ หมายถึงส่วนแบ่งของชิ้นเนื้อ อีกคำที่ต่อกันเป็นประโยคนี้ คือคำว่า ตามเวลา ใช้คำว่า ไครอส แปลว่า โอกาส (เวลาของพระเจ้า) ที่มาถึง  ในคำอุปมาของพระเยซูคริสต์ตอนนี้  พระองค์กำลังพูดถึง สาวกของพระองค์ หมายถึง คริสเตียนที่ดำเนินชีวิตในฐานะผู้รับใช้ของพระคริสต์ 

คนที่เป็นผู้นำของผู้รับใช้ของพระคริสต์เรียกว่า คนต้นเรือนสัตย์ซื่อ และฉลาด กับพวกคนใช้สำหรับแจกอาหารตามเวลา คนทั้งสองสถานะนี้ ต่างมีสิ่งที่เหมือนกัน คือเป็นคนที่ทำหน้าที่แจกจ่าย  คนที่มองเห็นโอกาสในการปรนนิบัติคน

และที่น่าสนใจคำว่า คนใช้สำหรับแจกอาหาร ภาษากรีกอ่านว่า therapeuo (the-ra-pev’-ō) น่าจะเป็นรากศัพท์ของภาษาอังกฤษคำว่า Therapy ที่แปลว่า การรักษา รากศัพท์ภาษากรีกคำนี้ ใช้สำหรับการรอคอยเพื่อที่จะให้คนได้รับการรักษาให้จากโรคที่เป็นอยู่ เป็นการรอคอยอย่างผู้รับใช้ ผู้ปรนนิบัติ

ไม่ว่า คนต้นเรือนหรือคนใช้ ทั้งหมดคือคนที่ต้องรอคอยจังหวะเวลา ไครอส เพื่อจะช่วยคน แม้พระเยซูคริสต์จะใช้คำว่า สัตย์ซื่อและฉลาดกับคนต้นเรือน ซึ่งเป็นหัวหน้าของพวกคนใช้สำหรับแจกอาหาร แต่ทั้งหมดเป็นทีมเดียวกัน ที่ต้องสัตย์ซื่อและฉลาด และแน่นอน ความสัตย์ซื่อและฉลาด ต้องถูกนำมาใช้ในการรอคอยจังหวะเวลา โอกาสที่มาจากพระเจ้า

คำว่า สัตย์ซื่อ รากศัพท์ภาษากรีกแปลว่า เป็นคนที่มีการไว้วางใจในพระเจ้าอย่างมั่นคง ต่อเนื่อง

คำว่า ฉลาด  รากศัพท์ภาษากรีกแปลว่า  รอบคอบ  thoughtful  ซึ่งในปัจจุบันถูกนำมาใช้เป็นสำนวนแปลว่า มีน้ำใจ

ลักษณะของคนต้นเรือนที่สัตย์ซื่อและฉลาด ทำให้เป็นผู้นำที่เกิดจากภาวะที่มีความต้องการเรียกว่า สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ (“วิกฤตอาจเป็นบ่อเกิดของผู้กล้า สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ”) และเมื่อโอกาสมา ก็ต้องใช้ความสัตย์ซื่อและฉลาด ในการนำอาหารนั้นไปให้ถึงมือผู้ที่ต้องการ คำอุปมาของพระเยซูคริสต์กำลังหมายถึงคริสเตียนทุกคน เราเป็นผู้รับใช้ของพระคริสต์ พระองค์เป็นนายที่กำลังจะเสด็จมา ขณะที่เรากำลังรอคอยพระองค์ ภารกิจที่พระองค์มอบหมายให้ท่ามกลางพวกเรา ก็คือ พร้อมที่จะแจกจ่าย

สาวกของพระเยซูมีประสบการณ์กับสถานการณ์แบบนี้ ตอนที่เกิดความต้องการของคนจำนวนมาก (พระเยซูเลี้ยงคนห้าพันคน)

มาระโก 8:17-20 17 เมื่อ​พระ​เยซู​ทรง​ทราบ​จึง​ตรัส​แก่​เขา​ว่า “เหตุ​ไฉน​พวก​ท่าน จึง​พูด​กัน​และ​กัน ถึง​เรื่อง​ไม่​มี​ขนม​ปัง ท่าน​ยัง​ไม่​รู้​และ​ไม่​เข้าใจ​หรือ ใจ​ของ​ท่าน​มืด​มัว​หรือ​18 มี​ตา​แล้ว​ยัง​ไม่​เห็น​หรือ มี​หู​แล้ว​ยัง​ไม่ได้​ยิน​หรือ ท่าน​ทั้ง​หลาย​จำ​ไม่ได้​หรือ​19 เมื่อ​เรา​หัก​ขนม​ปัง​ห้า​ก้อน ให้แก่​คน​ห้า​พัน​คน​นั้น ท่าน​ทั้ง​หลาย​เ​ก็​บ​เศษ​ที่​เหลือ​นั้น​ได้​กี่​กระบุง” เขา​ทูล​ตอบ​ว่า “ได้​สิบ​สอง​กระบุง”20 “เมื่อ​เรา​แจก​ขนม​ปัง​เจ็ด​ก้อน​ให้แก่​คน​สี่​พัน​คน​นั้น ท่าน​ทั้ง​หลาย​เ​ก็​บ​เศษ​ที่​เหลือ​ได้​กี่​ตะกร้า” เขา​ทูล​ตอบ​ว่า “ได้​เจ็ด​ตะกร้า

ข้อพระคัมภีร์ตอนนี้บอกเราว่า พระเยซูทรงเลี้ยงคนนับพัน มากกว่าหนึ่งครั้ง เกิดการอัศจรรย์เรื่องการแจกจ่ายอาหาร จากมือของสาวกของพระเยซู มือที่พร้อมจะรับขนมปัง (ส่วนแบ่งชิ้นเนื้อจากมือของพระเยซู) ส่งต่อให้กับคนที่กำลังต้องการ เหลือเก็บ สังเกตว่า สิ่งใดที่มาจากมือของพระเยซูมักจะให้มาเกิน (เหลือเก็บ) คริสตจักรรับพระพรจากเหลือเก็บที่เราแจกจ่ายออกไปอย่างเพียงพอสำหรับความต้องการเสมอ

มันคือบทบาท มันไม่ใช่ตำแหน่ง มันคือการเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ ในที่ที่มีความต้องการ เราได้พาตัวเราไปพบกับความต้องการที่ไหนบ้าง หรือเราอยู่แต่ในโบสถ์ ในห้องสี่เหลี่ยม รอคอยให้คนมาหา  มีคนในสังคมของเรา ที่กลัวการต้องจ่าย กลัวการให้คนอื่นฟรีๆ(แจก) คนในสังคมบางคนจึงวิ่งหนีสถานการณ์ที่คาดว่าจะต้องจ่าย จะต้องแจก สังเกตว่า คนประเภทนี้ จะอยู่อย่างคนที่กลัวความขาดแคลน และมักไม่ออกไปพบผู้คน

คำว่า อัครทูต แปลว่า ถูกส่งออกไป พระเยซูพูดถึงคำว่า จงออกไป….สั่งสอนคนให้เป็นสาวกของพระองค์  พระเยซูทรงส่งสาวกของพระองค์ออกไปที่ไหนบ้าง ออกไปยังเมือง ยังบ้าน เข้าไปในบ้านของคนเหล่านั้น แล้วจะพบความต้องการที่แท้จริง พระเยซูตรัสว่า ไม่ต้องเอาอะไรติดตัวไป

มาระโก 6:7-8 7 ​พระ​องค์​ทรง​เรียก​สาวก​สิบ​สอง​คน​มา แล้ว​ทรง​ใช้​เขา​ให้​ออกไป​เป็น​คู่ๆ ทรง​ประทาน​อำนาจ​ให้​เขา​ขับ​ผี​ร้าย​ออก​ได้​8 และ​ตรัส​กำชับ​เขา​ไม่ให้​เอา​อะไร​ไป​ใช้​ตาม​ทาง เว้น​แต่​ไม้​เท้า​สิ่ง​เดียว ห้าม​มิ​ให้​เอา​อาหาร​หรือ​ย่าม หรือ​หา​สตางค์​ใส่​ไถ้​ไป​

ลูกา 10:1,4 1 ภายหลัง​เหตุการณ์​เหล่า​นั้น ​พระ​เยซู​ทรง​ตั้ง​สาวก​อื่น​อีก​เจ็ด​สิบ​คน​ไว้ และ​ใช้​เขา​ออกไป​ที​ละ​สอง​คนๆ ให้​ล่วงหน้า​พระ​องค์​ไป​ก่อน ให้​เข้า​ไป​ทุก​เมือง​และ​ทุก​ตำบล​ที่​พระ​องค์​จะ​เสด็จ​ไป​นั้น​….4 อย่า​เอา​ไถ้​เงิน หรือ​ย่าม หรือ​รองเท้า​ไป และ​อย่า​คำนับ​ผู้ใด​ตาม​ทาง​  

พระเยซูสั่งและส่งสาวกออกไป อย่ามากระจุกกัน แต่ให้ออกไป ไม่ต้องรอให้พร้อม และเมื่อสาวกกลับมาหาพระเยซู ต่างมีคำพยานมากมาย

ลูกา 10:17 17 ฝ่าย​สาวก​เจ็ด​สิบ​คน​นั้น​กลับมา​ด้วย​ความ​ปรีดี​ทูล​ว่า “​พระ​องค์​เจ้า​ข้า ถึง​ผี​ทั้ง​หลาย​ก็​ได้​อยู่​ใต้​บังคับ​ของ​พวก​ข้า​พระ​องค์​โดย​พระ​นาม​ของ​พระ​องค์”

ซิก ซิกการ์  ได้กล่าวว่า จงทำให้ความปรารถนาของคนอื่นสำเร็จก่อน แล้วคุณจึงจะสำเร็จ

หรือกล่าวอีกแบบหนึ่งก็คือ  ความสุขจะเกิดขึ้นเมื่อทำให้คนอื่นมีความสุข ไม่ใช่มีความสุขอยู่บนความทุกข์ของคนอื่น

“ผู้รับใช้ของพระคริสต์…พร้อมที่จะแจกจ่าย”  ไม่ต้องรอให้มี จึงจะพร้อม ทั้งหมดคือท่าทีจากภายในจิตใจก่อนอันดับแรก พระเยซูทรงใช้คำอุปมาตอนนี้สอนสาวกของพระองค์สองด้าน ด้านหนึ่งของคนที่พร้อมที่จะแจกจ่าย อีกด้าน คือคนที่ไม่พร้อมที่จะแจกจ่าย ผลลัพธ์ตรงกันข้ามกันอย่างสิ้นเชิง

1.วางใจพระเจ้าและมีน้ำใจ ลูกา 12:42-44

42 องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ตรัส​ว่า “ใคร​เป็น​คน​ต้น​เรือน​สัตย์​ซื่อ​และ​ฉลาด ที่​นาย​ได้​ตั้ง​ไว้​เหนือ​พวก​คน​ใช้​สำหรับ​แจก​อาหาร​ตาม​เวลา​43 เมื่อ​นาย​มา​พบ​เขา​กระทำ​อยู่​อย่าง​นั้น บ่าว​ผู้​นั้น​ก็​จะ​เป็น​สุข​44 เรา​บอก​ความ​จริง​แก่​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ว่า นาย​จะ​ตั้ง​เขา​ไว้​ให้​ดูแล​บรรดา​ข้าว​ของ​ของ​ท่าน​

คนที่วางใจในพระเจ้าและมีน้ำใจตลอดเวลา จะพบกับไครอส เวลาและโอกาสที่มาจากพระเจ้า เขาจะมีโอกาสทำดี มีโอกาสที่จะให้ คนที่วางใจในพระเจ้า มองทุกอย่างคือโอกาสที่จะแสดงน้ำใจ  นี่คือลักษณะชีวิตของผู้รับใช้ของพระคริสต์…พร้อมที่จะแจกจ่าย 

ข้าพเจ้าจำได้คำพูดของ ลอว์เลนซ์ คอง  ศิษยาภิบาลคริสตจักร FCBC (Faith Community Baptist church ) ช่วงที่เขาได้เป็นประธานเครือข่ายอธิษฐานในประเทศสิงคโปร์ และทำโครงการ Love Singapore  เขาได้พูดว่า พระเจ้าตรัสกับเขาว่า เขาต้องช่วยให้คริสตจักรอื่นก่อน แล้วพระเจ้าจะอวยพรคริสตจักรของเขา  นี่คือ ความวางใจในพระเจ้า และมีน้ำใจ (ใจกว้าง)

โลกทุกวันนี้ เต็มไปด้วยค่านิยม “ของๆข้า ใครอย่าแตะ ของข้าเป็นของข้า ไม่แบ่งให้ใคร” และอาณาจักรของข้า ข้าต้องยิ่งใหญ่” เรียกว่า อีโก้   ทุกอย่างเพื่อตัวเอง เพื่อบริษัท เพื่อร้านค้า เพื่อกิจการ เพื่อธุรกิจ เพื่อธุระของตัวเอง  เราจึงเห็นเทคโนโลยี มีแต่คำว่า ไอ   สินค้าที่ขายดี มักขึ้นต้นด้วย ไอ คือ สิ่งที่แสดงตัวของฉัน  เช่น ไอสไตล์(แบบของฉัน)  ไออโลน(ฉันคนเดียว)  ไอโฟน(โทรศัพท์ของฉัน)  ไอสมาร์ท(ความเก่งของฉัน)  ไอโมบายด์ ไอเทรนด์(แฟชั่นของฉัน) …. คนรุ่นใหม่ ชอบทุกอย่างที่มีคำว่า ไอ อะไรก็ของฉัน  ของฉัน และของฉัน  ค่านิยมแบบนี้ ไม่พร้อมที่จะแจกจ่าย เราจึงเห็นคนรุ่นใหม่ ค่อนข้างจะแล้งน้ำใจ  และขาดประสบการณ์การไว้วางใจในพระเจ้า เรามีภารกิจสำคัญแล้วละ ทำอย่างไร จึงจะนำคนรุ่นใหม่ให้กลับมามีน้ำใจและวางใจในพระเจ้า เป็นคนต้นเรือนสัตย์ซื่อและฉลาด….และเป็นผู้นำพวกคนที่จะทำงานเป็นทีมเพื่อนำการเยียวยาไปสู่คนมากมายได้  ผู้รับใช้ของพระคริสต์…พร้อมที่จะแจกจ่าย ต้องระวังชีวิต….

2.อย่าไร้น้ำใจอย่าส่งต่อบาดแผล ลูกา 12:45-46

45 แต่​ถ้า​บ่าว​นั้น​จะ​คิด​ใน​ใจ​ว่า ‘นาย​ของ​ข้า​คง​จะ​มา​ช้า’ แล้ว​จะ​ตั้ง​ต้น​โบย​ตี​บ่าว​ชาย​หญิง​และ​กิน​ดื่ม​เมา​ไป​46 นาย​ของ​บ่าว​ผู้​นั้น​จะ​มา​ใน​วันที่​เขา​ไม่​คิด ใน​โมง​ที่​เขา​ไม่​รู้ และ​จะ​ทำ​โทษ​เขา​ถึง​สาหัส ทั้ง​จะ​ขับ​ไล่​เขา​ให้​ไป​อยู่​กับ​คน​ที่​ไม่​สัตย์​ซื่อ​

จะเห็นว่า  พระเยซูไม่เรียกเคสนี้ว่า คนต้นเรือน แต่เรียกระดับเดียวกันกับทีมของเขา คือทำตัวเป็นทาส กับทาสด้วยกัน

การโบยตี เกิดจาการไม่เชื่อฟัง การไม่ยอมรับของทาสด้วยกัน คนเป็นหัวหน้าทำตัวเหมือนลูกน้อง  แทนที่จะคิดถึงการแจกจ่าย แต่กลับไปกินดื่มเอง บำเรอเนื้อหนังของตัวเอง ไม่เป็นผู้อารักขาสิ่งที่ตนเองครอบครองอย่างซื่อสัตย์ ดำเนินชีวิตอย่างโง่เขลา ไม่ได้พร้อมสำหรับแจกจ่าย หรือแบ่งส่วนแบ่งแห่งพระพรให้กับคนอื่น คำว่า ไม่ซื่อสัตย์ ในข้อนี้ ฉบับแปล 2011 แปลว่า คนที่ไม่เชื่อ ซึ่งหมายถึง คริสเตียนที่ดำเนินชีวิตอย่างไม่ใช้ความเชื่ออย่างคริสเตียน

(2011) ลูกา 12:46 46 นาย​ของ​บ่าว​คน​นั้น​จะ​มา​ใน​วัน​ที่​เขา​ไม่​คาด​คิด ใน​เวลา​ที่​เขา​ไม่​รู้ และ​จะ​ลง​โทษ​เขา​อย่าง​หนัก และ​จะ​ขับ​ไล่​ให้​ไป​อยู่​ใน​ที่​ของ​พวก​ที่​ไม่​เชื่อ

การเรียกอย่างทาส คือมีน้ำใจอย่างทาส  ยากที่จะมีน้ำใจให้กับคนอื่น จะเห็นการแสดงออกความไร้น้ำใจด้วยการโบยตีทาสด้วยกัน คือการสร้างบาดแผลให้เกิดขึ้น เจ็บปวด และป่วยมากขึ้น

มีคำพูดหนึ่งกล่าวว่า อย่าให้คนที่เดินเข้ามาในโบสถ์ แล้วตอนออกจากโบสถ์ต้องหามออกไป เราต้องไม่ทำให้คนที่ใกล้เราป่วยกว่าเดิม ให้เราสำรวจคำพูด การกระทำของเรา เป็นผู้รับใช้ของพระคริสต์…พร้อมที่จะแจกจ่าย  อย่างคนที่ไว้วางใจพระเจ้า อย่างคนมีน้ำใจ ไม่ส่งต่อบาดแผล หรือทำให้คนป่วยกว่าเดิม

“ผู้รับใช้ของพระคริสต์…พร้อมที่จะแจกจ่าย”

1.วางใจพระเจ้าและมีน้ำใจ

2.อย่าไร้น้ำใจอย่าส่งต่อบาดแผล

By admin