“ลอด…รอด”
เอสเธอร์ 4:13-16 13 โมรเดคัยจึงบอกเขาให้กลับไปทูลตอบพระนางเอสเธอร์ว่า “อย่าคิดว่าเธออยู่ในราชสำนักจะรอดพ้นได้ดีกว่าพวกยิวอื่นๆ 14 เพราะถ้าเธอเงียบอยู่ในเวลานี้ ความช่วยเหลือและการช่วยกู้จะมาถึงพวกยิวจากที่อื่น แต่เธอและครัวเรือนบิดาของเธอจะพินาศ ที่จริงเธอมารับตำแหน่งราชินีก็เพื่อยามวิกฤตเช่นนี้ก็เป็นได้นะ ใครจะรู้”15 แล้วเอสเธอร์ตรัสบอกเขาให้ไปบอกโมรเดคัยว่า16 “ไปเถิด ให้รวบ รวมพวกยิวทั้งสิ้นที่หาพบในสุสา และถืออดอาหารเพื่อฉัน อย่ารับประทาน อย่าดื่มสามวัน กลางคืนหรือกลางวัน ฉันและสาวใช้ของฉันจะอดอาหารอย่างท่านด้วย แล้วฉันจะเข้าเฝ้าพระราชาแม้ว่าเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย ถ้าฉันพินาศ ฉันก็พินาศ”ช่วงเวลานี้ ไม่มีข่าวใดจะใหญ่และเป็นที่สนใจแก่ประชาชนได้เท่ากับข่าวเด็กนักฟุตบอลทีม”หมูป่า”กับโค้ชติดอยู่ในถ้ำหลวง อ.แม่สาย จ.เชียงราย ข้าพเจ้าเองก็ได้เฝ้าติดตามข่าวตลอด และเฝ้าอธิษฐานและอยากได้ยินข่าวดีว่า พบเด็กและสามารถช่วยทุกคนให้รอดชีวิตออกมา ยิ่งรู้ว่า มีเด็กคนหนึ่งในนั้นชื่อน้องอดุลย์ เป็นคริสเตียนคนเดียวที่ร่วมอยู่ในเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย ทำให้ข้าพเจ้ายิ่งรู้สึกว่า น้องอดุลย์จะเป็นกุญแจสำคัญแก่เพื่อนๆและโค้ชให้ได้รับการช่วยกู้จากพระเจ้า เรื่องราวของพระนางเอสเธอร์ในพระคัมภีร์ท่อนที่คัดลอกมาตอนนี้ เป็นเรื่องการช่วยกู้คนยิวทั้งชาติให้รอดพ้นจากแผนการชั่วร้ายของฮามาน (ผู้มีความอาฆาตส่วนตัวกับโมเดรคัย แต่ต้องการทำลายคนเชื้อชาติยิวเดียวกันกับโมเดรคัยทั้งหมด เพื่อแสดงอำนาจของตนเอง) โมเดรคัย คนยิว เป็นพ่อบุญธรรมของพระนางเอสเธอร์ (ผู้มีเชื้อสายยิวด้วย) ได้มองเห็นช่องทางที่จะช่วยคนยิวให้รอดจากแผนการร้ายทำลายล้างเผ่าพันธ์ครั้งนี้ ด้วยการให้พระนางเอสเธอร์เข้าเฝ้ากราบทูลขอความช่วยเหลือจากพระราชาแห่งเปอร์เซีย เพราะกฏหมายของเปอร์เซียได้กำหนดว่า ใครจะเข้าเฝ้าพระราชาได้ ต้องได้รับการเรียกจากพระราชาฝ่ายเดียว ถ้าไม่เรียกและเข้าเฝ้าเองเป็นการส่วนตัว มีโทษถึงตาย พระนางเอสเธอร์ไม่ได้ถูกเรียกเข้าเฝ้ามาเป็นเวลาหนึ่งเดือนแล้วในช่วงเกิดเหตุการณ์นี้ จึงเป็นอะไรที่ยากมากที่จะไปขอความช่วยเหลือจากพระราชาตามคำแนะนำของโมเดรคัย และพระนางเอสเธอร์ก็ดูเหมือนจะอยู่ในวังเหมือนกับอยู่ในถ้ำ ประยุกต์พระคัมภีร์ตอนนี้กับน้องอดุลย์ (หนึ่งนักฟุตบอลทีมหมูป่าที่ติดอยู่ในถ้ำแล้ว) บทบาทของโมเดรคัยในเวลานั้น ก็คือ พระวิญญาณบริสุทธิ์ผู้ทรงสถิตในผู้เชื่อทุกคน รวมทั้งน้องอดุลย์ด้วย หวังใจอย่างยิ่งว่า น้องอดุลย์จะได้ยินเสียงสื่อสารในเวลาแห่งความเงียบที่สุดในชีวิตของเขา ร้องขอพระราชา กษัตริย์เหนือกษัตริย์ทั้งหลาย คือพระบิดาแห่งฟ้าสวรรค์ ขอให้พระองค์ประทานการช่วยกู้ คำแนะนำที่ดี ที่เป็นทางลอดออกมาจากถ้ำ เพื่อทุกชีวิตจะรอด และที่สำคัญที่สุดคือ ทางรอดในมิติฝ่ายวิญญาณที่คนมากมายมองไม่เห็น นอกจากมนุษย์ฝ่ายวิญญาณที่มีพระวิญญาณบริสุทธิ์ (สูจิบัตรวันนี้ เขียนในวันเสาร์เมื่อวาน) หากวันนี้ มีข่าวดีว่าเด็กทุกคนลอด…รอดออกมาได้ ก็ขอบคุณพระเจ้า หากยังไม่ ให้เราอธิษฐานสนับสนุนน้องอดุลย์ต่อเนื่องต่อไป