“คนเลี้ยงแกะ…ผู้สื่อสารอวยพรโลก”
ลูกา 2:15-20 15 เมื่อทูตสวรรค์เหล่านั้น ไปจากเขาขึ้นสู่สวรรค์แล้ว พวกเลี้ยงแกะได้พูดกันว่า “ให้เราไปยังเมืองเบธเลเฮมดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ซึ่งพระเป็นเจ้าได้ทรงแจ้งแก่เรา”16 เขาก็รีบไปแล้วพบนางมารีย์กับโยเซฟ และพบพระกุมารนั้นนอนอยู่ในรางหญ้า17 ครั้นเขาได้เห็นแล้ว จึงเล่าเรื่องซึ่งเขาได้ยินถึงพระกุมารนั้น18 คนทั้งปวงที่ได้ยินก็ประหลาดใจ ด้วยเนื้อความที่คนเลี้ยงแกะได้บอกแก่เขา19 ฝ่ายนางมารีย์ก็เก็บบรรดาสิ่งเหล่านั้นไว้ในใจและรำพึงอยู่20 คนเลี้ยงแกะจึงกลับไปยกย่องสรรเสริญพระเจ้า เพราะเหตุการณ์ทั้งปวงซึ่งเขาได้ยิน และได้เห็นดังได้กล่าวไว้แก่เขาแล้ว
ภาพวันคริสตมาสอีกภาพ ก็คือ ภาพของคนเลี้ยงแกะกับพระกุมารในรางหญ้า คนเลี้ยงแกะเหล่านี้ ได้รับการแจ้งข่าวจากทูตสวรรค์ มาปรากฏแจ้งพิกัดที่จะพบกับพระกุมารในรางหญ้า
ลูกา 2:11-12 11 เพราะว่าในวันนี้พระผู้ช่วยให้รอดของท่านทั้งหลาย คือพระคริสตเจ้า มาบังเกิดที่เมืองดาวิด12 นี่จะเป็นหมายสำคัญแก่ท่านทั้งหลาย คือท่านจะได้พบพระกุมารนั้นพันผ้าอ้อมนอนอยู่ในรางหญ้า” ประโยคที่ทูตสวรรค์กล่าวแก่พวกคนเลี้ยงแกะ มีสองคำที่สำคัญสำหรับคนยิว เป็นคำที่คนยิวรอคอยมาเป็นเวลานับร้อยนับพันปี นั่นคือคำว่า พระผู้ช่วยให้รอด(ผู้ที่จะปกป้อง คุ้มกัน ช่วยกู้) กับคำว่า พระคริสต์เจ้า (ผู้ที่พระเจ้าทรงเจิมตั้งไว้) เมืองดาวิด คือเมืองบ้านเกิดของกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของคนอิสราเอล ที่พระเจ้าทรงให้ผู้เผยพระวจนะหลายคนพยากรณ์ถึงพระเมสสิยาห์ พระผู้ช่วยให้รอด ผู้ที่พระเจ้าทรงเจิมไว้ จะมาบังเกิดจากเชื้อสายของกษัตริย์ดาวิด
วันคริสตมาส คือวันที่การรอคอยสำเร็จ พวกคนเลี้ยงแกะได้พบได้เข้าเฝ้าพระกุมารในรางหญ้า และยังได้เป็นส่งข่าวไปยังคนอื่นๆ สร้างความประหลาดใจให้กับคนที่ได้รับฟัง โดยเฉพาะนางมารีย์ที่ให้กำเนิดพระกุมาร ก็ประหลาดใจ ละเก็บไว้ในใจ เป็นการได้รับการยืนยันสำหรับนางมารีย์ว่า พระเจ้าทรงรับรองแผนการกำเนิดของพระเยซู พระองค์ไม่ได้ให้นางมารีย์คลอดลูกแบบเงียบๆ แต่มีคนกลุ่มหนึ่ง มาแสดงความยินดี และร่วมเป็นพยานในครั้งนี้ด้วย
และประโยคทองที่คนเลี้ยงแกะได้ยินจากเสียงเพลงของทูตสวรรค์ และนำติดตัวมาในการพบกับพระกุมารในรางหญ้าก็คือ
ลูกา 2:14 14 “พระสิริจงมีแด่พระเจ้าในที่สูงสุด ส่วนบนแผ่นดินโลก สันติสุขจงมีท่ามกลางมนุษย์ทั้งปวง ซึ่งพระองค์ทรงโปรดปรานนั้น”
คนเลี้ยงแกะ กลายเป็นผู้สื่อสารสำคัญ และประโยคนี้ ได้บันทึกในพระคัมภีร์ส่งต่อมานับพันปีถึงคนในยุคของเรา เป็นถ้อยคำแห่งการอวยพรแก่โลกนี้ วันนี้ คริสตมาสในภาพนี้ ทำให้เราเป็นผู้สื่อสาร?