“อยู่เพื่อ….ให้รอด” Living for Salvation
Genesis ปฐมกาล 6:3-8 3พระเจ้าจึงตรัสว่า “วิญญาณของเราจะไม่สถิตอยู่ในมนุษย์ตลอดกาล เพราะมนุษย์เป็นแต่เนื้อหนัง อายุของเขาจะไม่เกินร้อยยี่สิบปี”4 ในคราวนั้นมีคนเนฟิล อยู่บนแผ่นดิน เมื่อบุตรพระเจ้าได้สมสู่อยู่กับบุตรหญิงของมนุษย์และมีบุตร พวกนี้เป็นคนแกล้วกล้าในโบราณกาล เป็นคนมีชื่อเสียง 5 พระเจ้าทรงเห็นว่าความชั่วช้าของมนุษย์มีมากบนแผ่นดิน และทรงเห็นว่าเค้าความคิดในใจของเขาล้วนเป็นเรื่องร้ายเสมอไป6 พระเจ้าจึงเสียพระทัยที่ได้สร้างมนุษย์ไว้บนแผ่นดินและโทมนัส7 พระเจ้าจึงตรัสว่า “เราจะกวาดล้างมนุษย์ที่เราได้สร้างมานี้ไปเสียจากแผ่นดิน ทั้งมนุษย์สัตว์กับบรรดาสัตว์เลื้อยคลานและนกในอากาศด้วย เพราะว่าเราเสียใจที่ได้สร้างมา”8 แต่โนอาห์เป็นที่โปรดปรานในสายพระเนตรพระเจ้า
พระคัมภีร์ในตอนนี้ ได้แยกมนุษย์ออกเป็นสองพวก คือพวกที่เป็นบุตรของพระเจ้า กับพวกที่เป็นบุตรของมนุษย์ คำที่เรียกมนุษย์ เป็นคำฮีบรู คือคำว่า อาดัม มนุษย์คนแรกที่พระเจ้าทรงสร้าง และหลังจากล้มลงในความบาป อาดัมถูกใช้เป็นคำเรียกมนุษย์ เพื่อแยกมนุษย์ที่ขาดความสัมพันธ์กับพระเจ้าเพราะความบาป ได้ถูกแยกออกจากพระเจ้า ความบาปที่อยู่ในมนุษย์ได้กลายพันธ์มากขึ้นเรื่อยๆเป็นความชั่วช้าของมนุษย์ จนทำให้พระเจ้าทรงเสียพระทัยในการกลายพันธ์นั้น คือเปลี่ยนจากดีกลายเป็นชั่ว แต่ยังมีคนที่ยังรักษาความเป็นบุตรของพระเจ้า นั่นคือ โนอาห์ ซึ่งพระคัมภีร์ปฐมกาลได้บันทึกว่า
8 แต่โนอาห์เป็นที่โปรดปรานในสายพระเนตรพระเจ้า
รากศัพท์ฮีบรูคำว่า เป็นที่โปรดปราน ใช้คำว่า found grace พบกับพระคุณของพระเจ้า มีคำอธิบายพระคัมภีร์ตอนนี้ว่า พระเจ้ามักจะสงวนคนบางคนไว้ในช่วงเวลาที่เลวร้ายแย่ที่สุด สำหรับพระองค์เอง คนที่พระองค์เหลือไว้ เพื่อจะพระคุณที่พระองค์ทรงกำหนดไว้ แม้จะแค่จำนวนเล็กน้อยแต่มาจากพระคุณของพระเจ้า ไม่ได้มาจากบุญหรือบารมีของสิ่งมีชีวิตใดๆทั้งสิ้น และพระคุณนี้ ถูกพบและมอบให้กับโนอาห์ คือน้ำพระทัยพระเจ้า
น้ำพระทัยพระเจ้า ที่อยู่ในโนอาห์ ในภาคปฏิบัติ คือการ อยู่เพื่อ….ให้รอด พระคัมภีร์บันทึกว่า เหตุผลที่โลกนี้จะต้องถูกล้างด้วยน้ำท่วม และโนอาห์ถูกเลือกให้ อยู่เพื่อ….ให้รอด (จากน้ำท่วมครั้งใหญ่) จากการดำเนินชีวิตของโนอาห์ที่พระคัมภีร์เรียกว่า
Genesis ปฐมกาล 6:9 9…โนอาห์เป็นคนชอบธรรมดีพร้อมในสมัยของเขา โนอาห์ดำเนินกับพระเจ้า
โนอาห์ดำเนินชีวิตแตกต่างจากคนในสมัยของเขา รากศัพท์คำว่า ดีพร้อม perfect แปลว่า มี integrity or truth มีคุณธรรมหรือความจริงในวิถีการดำเนินชีวิตของตนเอง แตกต่างจากคนในสมัยของท่าน
Genesis ปฐมกาล 6:12-14,17,21-22 12 พระเจ้าทอดพระเนตรแผ่นดินก็ทรงเห็นว่าเสื่อมทราม เพราะบรรดามนุษย์ประพฤติตนเสื่อมทรามบนแผ่นดิน 13 พระเจ้าจึงตรัสแก่โนอาห์ว่า “เราตัดสินใจแล้วว่า จะให้บรรดามนุษย์ถึงความพินาศเสียที ด้วยเหตุว่าโลกเต็มไปด้วยความทารุณเพราะการกระทำของมนุษย์ ดูเถิด เราจะทำลายพวกเขาพร้อมกับแผ่นดินโลก14 เจ้าจงต่อนาวาด้วยไม้สนโกเฟอร์ แล้วทำเป็นห้องๆ และยาชันทั้งข้างในข้างนอก ….17 เพราะดูเถิด เราเองจะเป็นผู้ทำให้น้ำท่วมแผ่นดิน จะทำลายมนุษย์และสัตว์ที่มีลมปราณทั้งปวงใต้ฟ้า ทุกสิ่งที่อยู่บนแผ่นดินจะตายสิ้น….21 เจ้าจงสะสมเสบียงอาหารไว้ทุกอย่าง เป็นอาหารของเจ้าบ้างของสัตว์เหล่านั้นบ้าง”22 พระเจ้าทรงบัญชาให้โนอาห์ทำอย่างไร โนอาห์ก็ทำอย่างนั้นทุกประการ
พระเจ้าสั่งให้โนอาห์สร้างเรือ สะสมอาหาร สำหรับตนเอง และสัตว์ที่พระเจ้าสั่งให้โนอาห์นำเข้าไปในเรือด้วย ขณะที่โนอาห์สร้างเรือ เราได้รับชมในวีดีโอว่า เรือตั้งอยู่ในที่สูงคือบนภูเขา และผู้คนมากมายก็เยาะเย้ยโนอาห์และคนในครอบครัวของท่าน เพราะในยุคนั้น และในพื้นที่ภูมิภาพที่โนอาห์กับครอบครัวอยู่ เรื่องฝน เรื่องน้ำ เป็นสิ่งที่ขาดแคลน แล้งและเป็นไปไม่ได้ที่จะมีน้ำท่วมถึงภูเขา แต่สิ่งที่โนอาห์ทำ คือการเชื่อฟัง และรักษาชีวิตของท่านให้อยู่ในความซื่อสัตย์ในคุณธรรม ความเชื่อที่ท่านมีในพระเจ้า เรื่องราวของน้ำท่วมโลกที่พระคัมภีร์ปฐมกาลบันทึกว่า มีฝนตกสี่สิบวัน น้ำออกมาจากตาน้ำทุกแห่ง น้ำเพิ่มระดับ และน้ำก็ท่วมโลกอยู่นานถึง 150 วัน (5 เดือน)
พระเจ้าตรัสคำว่า เพื่อให้รอดชีวิตอยู่ได้ เพื่อให้มีชีวิตรอดอยู่ได้ ถึงสองครั้ง นี่คือน้ำพระทัยของพระเจ้า สำหรับชะตากรรมของโลกในยุคสมัยน้ำท่วมโลก หลังจากน้ำท่วม พระเจ้าทรงประทานรุ้งกินน้ำเป็นเครื่องหมายของคำสัญญาว่า พระองค์จะไม่ให้น้ำท่วมโลกอีก…. แต่วันนี้ มนุษย์กลัวน้ำจะท่วมโลกอีก ในอีกไม่กี่ร้อยปีข้างหน้า คุณเชื่อพระสัญญาของพระเจ้าหรือไม่? บางคนว่า คงไม่อยู่จนถึงเวลานั้น แต่เศรษฐีบางคนก็ตีตั่วยานอวกาศจะย้ายบ้านไปอยู่ดาวอังคารกันแล้ว….นื่คือทางเลือกของคนรวยที่ต้องการจะอยู่เพื่อ…ให้รอด…จากหายนะของโลกนี้
มีคนเปรียบเทียบโลกนี้ เป็นเหมือนเรือไททานิก ที่มีฉายาว่า เรือไม่มีวันจม แต่ประวัติศาสตร์ของเรือไททานิก ได้บันทึกโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับคนจำนวนมากมายที่ไว้วางใจให้กับเรือที่ไม่มีวันจมไททานิก ต้องตายอย่างอนาจมากมาย มีการวิเคราะห์ว่า คนจะไม่ตายมากขนาดนี้ หากเรือไททานิกไม่ได้ให้ฉายาว่าไม่มีวันจม จนคนไปฝากความไว้วางใจไว้กับเรือ ร่วมเดินทางไปกับเรือลำนี้ชนิด ที่บางคนยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ขึ้นเรือลำนี้ สุดท้ายไปไม่ได้ถึงฝั่ง ชนภูเขาน้ำแข็งและจมลงอย่างรวดเร็ว โลกนี้ก็กำลังเป็นเหมือนเรือไททานิกที่กำลังมีคนมากมายไว้วางใจและเดินทางไปกับโลกนี้ แต่หารู้ไม่ว่า มันกำลังจะชนภูเขาน้ำแข็ง และจมลงในที่สุด เพียงแค่เรื่องโรคระบาดหนึ่งโรค และผลกระทบเศรษฐกิจแบบโดมิโน ก็ทำให้ย่ำแย่แล้ว เราจะรับมืออย่างไร ข้าพเจ้าอยากให้เราเกาะติดสิ่งที่พระเยซูคริสต์ทรงตรัสและสอนไว้ ถึงเวลาแล้วที่เราจะนำมาใช้ในภาคปฏิบัติ ไม่ใช่แค่ท่องจำ และฟังเท่านั้น พระเยซูคริสต์ทรงแนะวิธี อยุ่เพื่อ…ให้รอด ไว้ให้ล่วงหน้าแล้ว….
Matthew มัทธิว 24:37-44 37 ด้วยสมัยของโนอาห์ ได้เป็นอย่างไร เมื่อบุตรมนุษย์เสด็จมา ก็จะเป็นอย่างนั้น38 เพราะว่าเมื่อก่อนวันน้ำท่วมนั้น คนทั้งหลายได้กินและดื่มกัน ทำการสมรสและยกให้เป็นสามีภรรยากัน จนถึงวันที่โนอาห์เข้าในนาวา39 และน้ำท่วมมากวาดเอาเขาไปสิ้น โดยไม่ทันรู้ตัวฉันใด เมื่อบุตรมนุษย์จะเสด็จมาก็จะเป็นฉันนั้น40 เมื่อนั้นชายสองคนอยู่ที่ทุ่งนา จะทรงรับคนหนึ่ง ทรงละคนหนึ่ง41 หญิงสองคนโม่แป้งอยู่ที่โรงโม่ จะทรงรับคนหนึ่ง ทรงละคนหนึ่ง42 เหตุฉะนั้นท่านทั้งหลายจงเฝ้าระวังอยู่ เพราะท่านไม่รู้ว่า องค์พระผู้เป็นเจ้าของท่านจะเสด็จมาเวลาไหน43 จงจำไว้ว่า ถ้าเจ้าของบ้านล่วงรู้ได้ว่าขโมยจะมายามไหน เขาจะตื่นอยู่และระวัง ไม่ให้ทะลวงเรือนของเขาได้44 เหตุฉะนั้นท่านทั้งหลายจงเตรียมพร้อมไว้ เพราะในโมงที่ท่านไม่คิดไม่ฝันนั้น บุตรมนุษย์จะเสด็จมา
พระเยซูทรงยกตัวอย่างของสมัยโนอาห์เป็นอย่างไร เมื่อบุตรมนุษย์เสด็จมา ก็จะเป็นอย่างนั้น หากเราสังเกตดีๆ การเสด็จมาของพระเยซูคริสต์ คือการช่วยให้รอด พระเยซูคริสต์จะเสด็จมาพร้อมกับนาวาที่พระองค์ทรงเตรียมไว้เพื่อรับคนที่อยู่เพื่อ…ให้รอด พระเยซูทรงใช้คำว่า คนสองคนๆหนี่งจะถูกรับไป คนหนึ่งจะถูกละไว้ คนสองคนทำกิจกรรมอย่างเดียวกัน คนหนึ่งจะถูกรับไป คนหนึ่งจะถูกละไว้ นั่นหมายถึง ชีวิตการเป็นคริสเตียนทุกคน ก็เหมือนกับชาวโลกทั่วไป การคัดกรองว่าใครจะถูกรับไป ใครจะถูกละไว้ ตัดสินกันด้วยภายนอกไม่ได้ เป็นงานที่มองไม่เห็นตัดสินกันด้วยความรู้สึกไม่ได้ แต่ด้วยมาตรฐานของสวรรค์เท่านั้น ไม่มีใครรู้ว่าใครจะผ่านหรือไม่ผ่าน แต่สิ่งที่พระเยซูเตือนก็คือ ให้เฝ้าระวังอยู่….จงเตรียมพร้อมไว้…. อยู่เพื่อ…ให้รอด พระเยซูทรงตรัสในพระคัมภีร์ตอนหนึ่งว่า
Matthew มัทธิว 24:12-13 12 ความรักของคนจำนวนมากจะเยือกเย็นลงเพราะความอธรรมแผ่กว้างออกไป13 แต่ใครสู้ทนถึงที่สุดก็จะได้รับการช่วยให้รอด
คำว่า ได้รับการช่วยให้รอด รากศัพท์กรีกแปลว่า รอคอยจนกว่าจะได้รับการปลดปล่อย ได้รับการปกป้อง คำว่า สู้ทนถึงที่สุด G5278 ὑπομένω hupomeno (hï-po-me’-nō) ถูกใช้ตรงกับคำว่า ทรหดอดทน เรื่องดินสี่ชนิด ดินชนิดที่สี่ ดินดี จะเกิดผลได้ ด้วยความเพียร (ทรหดอดทน) G5281 ὑπομονή hupomone (hï-po-mo-nee’) n.endurance (cheerful or hopeful), constancy. [from G5278] มาจากรากศัพท์ต้นฉบับคำว่า สู้ทนถึงที่สุด การเกิดผลจากดินสี่ชนิด กับการสู้ทนถึงที่สุด (ต่อความรักของคนจำนวนมากที่เยือกเย็นลง เพราะความอธรรมแผ่กว้าง แปลว่า อะไร คุณไปที่ไหน ก็จะพบกับความอธรรม แปลว่า อะไร อย่าหนี แต่ให้อดทน และอดทนอย่างมั่นคง อดทนให้ถึงที่สุด
13 แต่ใครสู้ทนถึงที่สุดก็จะได้รับการช่วยให้รอด
อยู่เพื่อ….ให้รอด คือการปรับตัว ให้ดีขึ้น ไม่ใช่ เพื่อจะเหมือนเดิม ต้องอดทนได้มากขึ้น และเป้าหมายคือ ทนได้ทุกอย่าง
มีคำพูดหนึ่งกล่าวว่า สิ่งที่ทำร้ายเราที่สุด ไม่ใช่คนที่เปลี่ยนไป แต่เป็นตัวเราที่ไม่ยอมเข้าใจว่า ทุกอย่างต้องเปลี่ยนแปลง และที่สำคัญที่สุด คือตัวเราต้องเปลี่ยนแปลง และต้องเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น และดีกว่า และดีที่สุด
เชื้อโรคใหม่ๆที่เกิดขึ้นในยุคของเรา มันกลายพันธ์เพื่อความอยู่รอดของมัน ไม่ถูกทำลายไป ให้เราเรียนรู้การอยู่เพื่อ…ให้รอด เราจึงต้องปรับตัวให้อยู่รอดด้วยเช่นกัน ในเมื่อเราควบคุมภายนอกไม่ได้ ก็ต้องควบคุมภายในตัวเราเอง ไม่ให้อ่อนแอ ติดเชื้อง่าย และป้องกันการติดเชื้อ ด้วยหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่าง เรายังต้องสังคม เพราะเราถูกสร้างมาให้เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีสังคม
คำว่า รวมกันเราอยู่ แยกกันตายหมู่ ที่ถูกเอามาบิดให้เป็น แยกกันเราอยู่ รวมกันตายหมู่ นั่นไม่ใช่ความจริง ความจริง คือ เรายังต้องรวมกันเราอยู่ อยู่เพื่อ….ให้รอด ไม่กลายความสัมพันธ์ รักษาการเชื่อมต่อกัน พระคัมภีร์เอเฟซัส ได้กล่าวถึง เป้าหมายของการดำรงอยู่ของคริสตจักรของพระเยซูคริสต์เจ้า คือการรวมกัน ไม่ใช่แยกกัน และการรวมกันต้องรวมกันชนิดต่อกันสนิท โดยมีพระเยซูคริสต์เป็นศีรษะ
Ephesians เอเฟซัส 4:11-16 11 และพระองค์เองประทานให้บางคนเป็นอัครทูต บางคนเป็นผู้เผยพระวจนะ บางคนเป็นผู้ประกาศข่าวประเสริฐ บางคนเป็นศิษยาภิบาลและอาจารย์12 เพื่อเตรียมธรรมิกชนสำหรับการปรนนิบัติและการเสริมสร้างพระกายของพระคริสต์ 13 จนกว่าเราทุกคนจะบรรลุถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในความเชื่อและในความรู้ถึงพระบุตรของพระเจ้า บรรลุถึงความเป็นผู้ใหญ่ คือโตเต็มถึงขนาดความบริบูรณ์ของพระคริสต์14 เพื่อเราจะไม่เป็นเด็กอีกต่อไป ถูกซัดไปซัดมาและพัดไปพัดมาด้วยลมคำสั่งสอนทุกอย่าง ด้วยเล่ห์กลของมนุษย์ ตามอุบายที่ฉลาดในการล่อลวง15 แต่ให้เรายึดถือความจริงด้วยความรัก เพื่อจะเจริญขึ้นในทุกด้านสู่พระองค์ผู้เป็นศีรษะคือพระคริสต์ 16 เนื่องจากพระองค์นี้เอง ร่างกายทั้งหมดจึงได้รับการเชื่อมและประสานเข้าด้วยกันโดยทุกๆ ข้อต่อที่ประทานมานั้น และเมื่อแต่ละส่วนทำงานตามหน้าที่แล้ว ก็ทำให้ร่างกายเจริญและเสริมสร้างตนเองขึ้นด้วยความรัก
เอเฟซัสตอนนี้ กำลังบอกว่า เป้าหมายของคริสตจักร ดำรงอยู่อย่างเชื่อมต่อกันสนิท และประสานกัน ทำให้เจริญและเสริมสร้างตนเองด้วยความรัก นั่นคือความหมายของการอยู่รอดของคริสตจักร คริสตจักรจะอยู่เพื่อ….ให้รอด ต้องไปในแนวทางนี้ คริสตจักรคือใคร คือผู้เชื่อทุกคน
มีคนในโลกนี้มากมายที่ยึดความจริงด้วยใจรัก แต่ไม่ได้ยึดความจริงด้วยความรัก ฉบับคิงส์เจมส์ภาษาอังกฤษใช้คำว่า speaking the truth in love แปลว่า พูดความจริงด้วยความรัก ด้วยซื่อสัตย์ในคุณธรรมภายใน
คริสตจักรอยู่รอดมาได้ ผ่านมาสองพันปี มีแต่ขยายออกไปกว้างไกล เป้าหมายคือ สุดปลายแผ่นดินโลก มาจากการอยู่ร่วมกัน ประสานกัน ต่อกันสนิท และปรับเปลี่ยนรูปแบบการแสดงออกถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน วันนี้ คริสตจักรกำลังถูกท้าทายจากปัญหาโรคระบาด โรคติดต่อ โดยการสัมผัส และล่าสุด ทางอากาศ ระยะห่างสิบเมตร ติดต่อกันได้ แม้เราจะแก้ปัญหาด้วยกการออนไลน์ แต่เราก็ยังต้องการการอยู่ร่วมกัน เป็นสังคมเดียวกัน ต่อกันสนิท และประสานกัน
อยู่เพื่อ….ให้รอด เราต้องปรับตัว ต้องเปลี่ยนแปลง เพื่อตอบโจทย์ปัญหาใหม่ที่เข้ามา แต่เรายังร่วมกันได้ สนิทกันได้
เวลานี้ เราไม่รู้ว่า จะมีการระบาดระลอกที่สองหรือไม่ แล้วเราจะยังสามารถมาโบสถ์นมัสการด้วยกันอย่างนี้ได้อีกหรือไม่ ขอให้เราเตรียมตัว เตรียมพร้อม อย่าสะสมแต่อาหารฝ่ายร่างกาย แต่จงสะสมอาหารฝ่ายจิตใจ ที่มีให้ต่อกันและกัน และสะสมอาหารฝ่ายจิตวิญญาณ คือพระวจนะที่มาจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า รับการสำแดงที่สดใหม่
อยู่เพื่อ…ให้รอด ต้องเริ่มเดี๋ยวนี้ ในการดำเนินชีวิต อย่างโนอาห์ ที่พบกับพระคุณของพระเจ้ามาถึงเขา และเขาเลือกดำเนินชีวิตในพระคุณ ในน้ำพระทัยพระเจ้า แม้คนรอบข้างจะเยาะเย้ย แต่โนอาห์เชื่อและทำตามที่พระเจ้าสั่งทุกประการ ย้ำ ทุกประการ ไม่หันไปซ้าย ไปขวา และไม่ทิ้งครอบครัว ยังนำคนในครอบครัวให้รอดไปด้วยกันกับท่านด้วย ทุกคนในครอบครัวต่างทำหน้าที่ของตนเอง อยู่เพื่อ…ให้ทุกคนรอด
Ephesians เอเฟซัส 4:14-16 14 เพื่อเราจะไม่เป็นเด็กอีกต่อไป ถูกซัดไปซัดมาและพัดไปพัดมาด้วยลมคำสั่งสอนทุกอย่าง ด้วยเล่ห์กลของมนุษย์ ตามอุบายที่ฉลาดในการล่อลวง15 แต่ให้เรายึดถือความจริงด้วยความรัก เพื่อจะเจริญขึ้นในทุกด้านสู่พระองค์ผู้เป็นศีรษะคือพระคริสต์ 16 เนื่องจากพระองค์นี้เอง ร่างกายทั้งหมดจึงได้รับการเชื่อมและประสานเข้าด้วยกันโดยทุกๆ ข้อต่อที่ประทานมานั้น และเมื่อแต่ละส่วนทำงานตามหน้าที่แล้ว ก็ทำให้ร่างกายเจริญและเสริมสร้างตนเองขึ้นด้วยความรัก
อยู่เพื่อ…ให้รอด อย่ามองสิ่งที่เห็นด้วยสายตา อย่าฟังเพียงสิ่งที่ได้ยินแค่หู แต่จงฟังเสียงของพระเจ้า และซื่อสัตย์ต่อคุณธรรม ภายในจิตใจของตนเอง ที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่ทรงสถิตภายในชีวิตของผู้เชื่อ
อยู่เพื่อ…ให้รอด เริ่มต้นด้วยความรัก ดำเนินไปด้วยความรัก และจบลงด้วยความรัก และความรักได้เริ่มต้นด้วยความอดทน ดำเนินไปด้วยความอดทน และจบลงด้วยความทรหดอดทนที่สุด
Corinthians 1โครินธ์ 13:4-84 ความรักนั้นก็อดทนนานและมีใจปรานี ความรักไม่อิจฉา ไม่อวดตัว ไม่หยิ่งผยอง5 ไม่หยาบคาย ไม่เห็นแก่ตัว ไม่ฉุนเฉียว ไม่ช่างจดจำความผิด6 ไม่ชื่นชมยินดีในความอธรรม แต่ชื่นชมยินดีในความจริง7 ความรักทนได้ทุกอย่าง เชื่ออยู่เสมอ มีความหวังและความทรหดอดทนอยู่เสมอ 8 ความรักไม่มีวันเสื่อมสูญ….
อยู่เพื่อ…ให้รอด Living for Salvation
Matthew มัทธิว 24:13 13 แต่ใครสู้ทนถึงที่สุดก็จะได้รับการช่วยให้รอด