“ตามพระเยซูคริสต์…แพทย์ผู้ประเสริฐ” ในสถานการณ์โควิด

ลูกา 7:11-23

วันนี้ เรากำลังอยู่ในสถานการณ์ที่แพทย์ พยาบาล ผู้ที่ต้องรับมือกับโควิด กำลังติดโควิดกันมากมาย จนบุคลากรทางการแพทย์ไม่เพียงพอสำหรับที่จะรับมือกับคนไข้ พี่น้องที่มีน้ำใจ ต่างช่วยกันเป็นกำลังใจ ส่งกำลังหนุน ให้กับบรรดาบุคลากรทางการแพทย์ที่เหลืออยู่ และยังทำหน้าที่ ข้าพเจ้าชื่นชมไอเดีย วิธีการทำงานของรพ.ตำรวจ ที่วางแผนให้แพทย์และพยาบาล ที่ติดเชื้อ แต่ยังแข็งแรง ให้ยังทำหน้าที่ดูแลผู้ป่วยโควิด  เพราะความขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ และน่าชื่นชมที่แพทย์พยาบาลเหล่านี้ มีน้ำใจ ที่ยังคงทำหน้าที่ช่วยคนอื่น ไม่มองว่าตัวเอง ติดเชื้อแล้ว และก็ขออยู่ในสถานะของผู้ป่วยรับการดูแลอย่างเดียว เขาเหล่านี้ เป็นผู้ป่วย ที่ดูแลผู้ป่วย  ขอชื่นชมด้วยใจจริง และขอปรบมือให้กับความเป็นฮีโร่ของท่าน (ขอพี่น้องปรบมือให้กับพวกเขาเหล่านี้ แม้เสียงปรบมือไม่ได้ดังไปถึงพวกเขาก็ตาม) เราขอเป็นกำลังใจ และอธิษฐานขอพระเยซูคริสต์เจ้าผู้เป็นแพทย์ผู้ประเสริฐ ทรงปกป้อง รักษา ฟื้นฟู สุขภาพของทุกคนที่ติดเชื้อให้หายดีเร็ววัน

ขณะนี้ เราทั้งหลายต่างต้องดูแลตัวเอง ตามมาตรการของทางการ เพื่อเราจะไม่เป็นผู้ป่วยติดเชื้อโควิด หรือป่วยด้วยโรคอะไรก็ตาม เพื่อจะให้แพทย์พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ที่มีจำนวนจำกัด ทั้งประเทศ มีเพียงหลักหมื่น ต้องไปดูแลคนหลักแสนหลักล้าน ทางโรงพยาบาลต่างๆ ได้ให้ผู้ป่วยเดิมทั้งหลาย ไม่ต้องมาโรงพยาบาล รับยาทางบ้าน จัดส่งให้ เสียค่าส่งไม่เท่าไหร่ การคุยกับแพทย์ทางโทรศัพท์ เพื่อลดความเสี่ยงของตัวเอง และของแพทย์และเจ้าหน้าที่ที่ยังทำหน้าที่ในโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่เหล่านี้ บางคนไม่ได้กลับบ้าน นานเป็นเดือน เครียดและคิดถึงคนในครอบครัว และกลัวคนในครอบครัวจะติดเชื้อไปด้วย

อย่างประเทศอินเดีย ที่เวลานี้ กำลังเผชิญกับสถานการณ์จำนวนประชากรที่มากมาย อยู่แล้ว และยังป่วยติดโควิดอีก โรงพยาบาลและบุคคลากรทางการแพทย์ไม่เพียงพออย่างยิ่ง จนทำให้ยากจะควบคุมจำนวนคนป่วยได้ มีป่วย และผู้เสียชีวิตรายวันจำนวนหลักแสน หลักหมื่น

มีคนส่งข้อความในไลน์กันว่า ขณะที่คนไทยรอเตียง คนอินเดียรอเตา มันน่าสลดใจ ยิ่งกว่าเรา

ในฐานะที่เราทั้งหลายที่เป็นคริสเตียน เราทำหน้าที่ของความเป็นคนไทย ด้วยการ หนุนใจกันและกันแล้ว เรายังต้องแบ่งเบาภาระของคนอื่น ด้วยการดูแลตัวเอง ให้ไม่เป็นภาระในสถานการณ์นี้ (ข้าพเจ้าหวังใจ และเชื่อว่า พวกเราทุกคนต่างกำลังทำหน้าที่ในเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี)

ไม่ใช่เพราะเรากลัว แต่เรามีจิตสำนึกที่ดีด้วย และที่สำคัญ เรามีความเชื่อในองค์พระเยซูคริสต์เจ้าผู้เป็นแพทย์ผู้ประเสริฐ

วันนี้ พระคำของพระเจ้ามาถึงเราในลูกา 7:11-23 ในวีดีโอ ได้รวบเอาบันทึกในพระกิตติคุณลูกามาอย่างไม่เรียงลำดับ แต่ให้เราได้เข้าใจถึงสาระที่สำคัญของการบันทึกตอนนี้  ยอห์นผู้ให้บัพติศมาในน้ำได้ประกาศให้คนกลับใจ และสุดท้ายถูกจับขังในคุก โดยกษัตริย์เฮโรด เนื่องจากภรรยาน้องชายที่เฮโรดเอามาเป็นเมีย ไม่พอใจ และหาช่องทางที่จะกำจัดยอห์น เมื่อสบโอกาส ที่เฮโดรตกปากรับคำว่า จะขออะไรก็ได้ นางจึงใช้ลูกสาวให้ขอเอาศีรษะของยอห์น ยอห์นจึงถูกจับขังคุกเพราะนางเฮโรเดียส  ก่อนยอห์นจะเสียชีวิต ขณะอยู่ในคุก สาวกของยอห์นได้มาเล่าเองพระเยซูทรงทำให้คนตายฟื้นขึ้นมาจากความตาย ยอห์นรู้ว่าตนเองคงจะไม่ได้ออกจากคุกและต้องตายแน่ ท่านจึงใช้สาวกไปถามพระเยซู อย่างที่เราได้เห็นในวีดีโอ เพื่อให้แน่ใจว่า พระเยซูคือพระเมสสิยาห์ที่พระเจ้าทรงสัญญาว่าจะประทานมาให้กับโลกนี้ คำตอบของพระเยซูคริสต์ที่ให้ไปบอกยอห์นก็คือ (แม้ในวีดีโอจะสั้นๆ ไม่ครบอย่างบันทึกในพระกิตติคุณลูกา ข้าพเจ้าจะอ่านอีกครั้งหนึ่ง

ลูกา 7:22-23 22 แล้ว​พระ​องค์​ตรัส​ตอบ​สอง​คน​นั้น​ว่า “ไป​บอก​ยอห์น​ใน​สิ่ง​ที่​ท่าน​ได้​เห็น​และ​ได้​ยิน คือ​ว่า​คน​ตา​บอด​เห็น​ได้ คน​ง่อย​เดิน​ได้ คน​โรค​เรื้อน​หาย​สะอาด คน​หู​หนวก​ได้​ยิน คน​ตาย​เป็น​ขึ้น​มา และ​พวก​คน​ยาก​จน​ก็​ได้​รับ​ฟัง​ข่าว​ดี23 ใคร​ไม่​มี​เหตุ​สะดุด​ใน​ตัว​เรา คน​นั้น​ก็​เป็น​สุข”

พระเยซูคริสต์ทรงตอบคำถามของยอห์น บัพติศโต ว่าพระองค์คือผู้นั้น ที่ยอห์นรอคอย คือ ผู้ที่พระเจ้าทรงส่งมา ตามคำพยากรณ์ในหนังสืออิสยาห์ หลายตอนได้พยากรณ์ไว้ถึงการคืนกลับสู่สภาพดี

อิสยาห์ 35:5-6  5 แล้ว​นัยน์ตา​ของ​คน​ตา​บอด​จะ​เปิด​ออก แล้ว​หู​ของ​คน​หู​หนวก​จะ​เบิก 6 แล้ว​คน​ง่อย​จะ​กระโดด​ได้​อย่าง​กวาง และ​ลิ้น​ของ​คน​ใบ้​จะ​ร้อง​เพลง​ด้วย​ความ​ชื่น​บาน เพราะ​น้ำ​จะ​พลุ่ง​ขึ้น​มา​ใน​ป่า​ดอน และ​ลำ​ธาร​จะ​พลุ่ง​ขึ้น​ใน​ทะเลทราย

อิสยาห์ 61:1-2  1 ​พระ​วิญญาณ​แห่ง​พระ​เจ้า​ทรง​อยู่​เหนือ​ข้าพเจ้า เพราะ​ว่า​พระ​เจ้า​ได้​ทรง​เจิม​ข้าพเจ้า​ไว้ เพื่อ​นำ​ข่าว​ดี​มายัง​ผู้​ที่​ทุกข์​ใจ ​พระ​องค์​ทรง​ใช้​ข้าพเจ้า​มา​ให้​เล้าโลม​คน​ที่​ชอก​ช้ำ​ระกำ​ใจ และ​ร้อง​ประกาศ​อิสรภาพ​แก่​บรรดา​เชลย และ​บอก​การ​เปิด​เรือนจำ​ออก​ ให้แก่​ผู้​ที่​ถูก​จำ​จอง2 เพื่อ​ประกาศ​ปี​แห่ง​ความ​โปรด​ปราน​ของ​พระ​เจ้า และ​วัน​แห่ง​การ​แก้​แค้น​ของ​พระ​เจ้า​ของ​เรา เพื่อ​เล้าโลม​บรรดา​ผู้​ที่​ไว้​ทุกข์

ในยุคสองพันปี ที่ไม่มีวิทยาการเกี่ยวกับการแพทย์ แพทย์ก็มีน้อย ต้องเผชิญกับโรคภัยไข้เจ็บและปัญหาทางสุขภาพตามยถากรรม โดยเฉพาะคนยากจน ไม่มีโอกาส ไม่มีหวัง ตายอย่างเดียว สภาวะเหมือนเป็นเชลย เหมือนักโทษในคุกที่ไม่มีอิสรเสรีภาพ วันเดือนปี ของคนเหล่านี้ ไม่น่ารื่นรม   คนยิวต่างรอคอยข่าวดี ตามพระสัญญาของพระเจ้า และเมื่อพระเยซูคริสต์ทรงทำพันธกิจเยียวยาร่างกาย จิตใจและจิตวิญญาณของผู้คนมากมาย พระองค์ทรงตอบโจทย์ คำถามเกี่ยวกับชีวิตให้กับคนมากมายได้  พระองค์จึงตรัสประโยคทองคำหนึ่ง คือ คนป่วยต้องการหมอ คนสบายดีไม่ต้องการ  นั่นคือคำตอบว่า ถ้าเรารู้สึกว่า ป่วย ไม่ว่าจะร่างกาย จิตใจ หรือจิตวิญญาณ  พระเยซูคริสต์ทรงเป็นแพทย์ผู้ประเสริฐ

ตามพระเยซูคริสต…แพทย์ผู้ประเสริฐ  จะเป็นคำตอบที่เราทั้งหลาย คริสเตียน จะช่วยแบ่งเบาภาระของหมอพยาบาลในวันนี้ ที่พวกเขากำลังรับมือกับคนป่วยจนล้น มีคำพูดหนึ่งกล่าวว่า เราไม่สามารถเพิ่มจำนวนแพทย์และพยาบาลได้อีกแล้ว มีแต่จะลดลง

ถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่เราทุกคน จะสำแดงความเชื่อในการติดตามพระเยซูคริสต์…แพทย์ผู้ประเสริฐ

เมื่อวานข้าพเจ้า เกิดภาวะหนึ่ง คือ เหมือนอาการปวดฟันขึ้นมาอย่างเฉียบพลัน ขณะกำลังเคี้ยวอาหารที่ไม่แข็ง ข้าพเจ้าคิดว่าตัวเองปวดฟัน จึงไปหาหมอฟันทันที ขอบคุณพระเจ้าได้พบกับหมอฟันเฉพาะทางเรื่องรากฟันที่คลีนิค และเมื่อเอ็กซเรย์แล้ว ไม่มีฟันผุ รากฟันปกติ ด้านหนึ่งสบายใจ อีกด้านหนึ่งก็คิดว่า น่าจะเกิดจากปลายประสาทบางอย่างแน่ๆ  ข้าพเจ้าปวดมาก จนน้ำตาเล็ด  เกือบจะให้คนที่นั่งไปด้วยขับรถแทน และกลับมาที่โบสถ์เพื่อจะอยู่กับพี่น้องที่ซ้อมเพลงนมัสการสำหรับวันอาทิตย์ ความปวดลดลงเรื่อยๆ ไม่ได้ทานยาแก้ปวดใดๆ แต่ก็ยังปวดอยู่ ข้าพเจ้าเอามือวางไว้ที่แก้ม และอธิษฐานกับพระเจ้า ความจริง ตั้งแต่ปวดทันที ก็อธิษฐานสารภาพบาป สำรวจตัวเองว่า ทำบาปเรื่องอะไร ความคิดใดเป็นบาป ก็ยังปวดอยู่ คุยกับพระเจ้าในใจไปตลอดทาง  จนวางมืออธิษฐาน จนปวดลดลงตามลำดับ และก็หายดี วันนี้ อยู่กับพี่น้องอย่างคนหายดี ข้าพเจ้าเชื่อว่า พระเจ้ารักษาข้าพเจ้า แต่ความคิดอย่างคนที่อยากตรวจให้แน่ใจว่าตัวเองเป็นอะไร หาความรู้เรื่องนี้ทางเน็ต และก็รู้ว่า ตัวเองน่าจะเป็นอะไร วันนี้วางแผนจะไปหาหมอที่โรงพยาบาลเอกชน ใจหนึ่งก็ต้องระวังว่าจะไปที่เสี่ยง อีกใจหนึ่งคิดถึงอีกด้าน

นั่นคือ  รอสักพักได้ไม๊ เราเชื่อในพระเยซูผู้เป็นแพทย์ผู้ประเสริฐ และสถานการณ์ตอนนี้ อย่าไปรพ.เลย ยังรับมือได้ ข้าพเจ้ากล่าวเช่นนี้ เฉพาะเคสของข้าพเจ้านะ  ข้าพเจ้ากำลังพูดถึง จิตสำนึกที่บอกกับข้าพเจ้า อย่าเป็นภาระเรื่องนี้ หากเราวิเคราะห์ตัวเองแล้ว เรายังรับมือได้ ยังเอาอยู่ รอให้สถานการณ์ดีขึ้น ค่อยไปหาหมอตรวจก็ยังไม่สาย เพราะโรคนี้ ในเน็ตมีหมอหลายคนบอกว่า ไม่ถึงอันตราย ไม่ถึงตาย รอได้….แต่ก็ควรไปตรวจ  ขอบคุณพระเจ้า  ข้าพเจ้าเชื่อแน่ว่า ในสถานการณ์นี้  ข้าพเจ้ากำลังตามพระเยซูคริสต์….แพทย์ผู้ประเสริฐ ที่ทรงสามารถอยู่กับเรา รักษาเยียวยาเรา และให้คำแนะนำกับเราให้มีสติในการรับมือกับความเจ็บป่วยของตัวเราเองได้

คนไทยเราในอดีต ป่วยนิดป่วยหน่อย อาศัยหาหมออย่างเดียวไม่คิด ไม่ทำอะไร ที่จะช่วยตัวเองขั้นต้น ไม่รู้ว่าปัจจุบัน เรายังเป็นอย่างนี้อยู่หรือไม่ ครั้งหนึ่งเมื่อข้าพเจ้าเดินทางไปอเมริกา ไปพักบ้านเพื่อนสมาชิกเก่าของใจสมาน และพบว่าข้าพเจ้าป่วย ลูกสาวเจ้าของบ้าน เอาหนังสือเล่มโต เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพของตนเองก่อนไปหาหมอ เพื่อจะไม่ต้องไปหาหมอโดยไม่จำเป็น เพราะว่า ค่ารักษาพยาบาลที่นั่น แพงมาก เป็นอะไรนิดอะไรหน่อย แล้วไปหาหมอ มีหวังหมดตัวแน่ นั่นคือเหตุผลในอดีต

แต่วันนี้ ข้าพเจ้าอยากให้เราได้เรียนรู้เรื่องนี้ว่า สถานการณ์วันนี้  บุคลากรทางการแพทย์กำลังจำกัดมาก และเสี่ยงที่พวกเขาจะกลายเป็นผู้ป่วย เราจะช่วยกันอย่างไร คำตอบคือ ดูแลตัวเองไม่ให้ป่วย และป้องกันคนอื่นไม่ให้ป่วย และเป็นไปได้ ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับโรคที่ตัวเองเป็น เพื่อไม่เป็นหนัก  กูเกิ้ล มาแทนที่หนังสือเล่มโตของลูกสาวเพื่อนข้าพเจ้ามีอะไรถามได้ และนี่คือวิถีหนึ่งของคริสเตียนที่ตามพระเยซูคริสต์…แพทย์ผู้ประเสริฐ (พระองค์ทรงทำบทบาทรักษาโรคที่ไม่หาย  และพระองค์ยังเป็นแพทย์ผู้ให้คำแนะนำแก่เราด้วย)

ครั้งหนึ่ง ข้าพเจ้าพาคุณน้าไปหาหมอ (ประจำ) เรื่องโรคประจำตัวของท่าน เป็นพาร์กินสัน) ด้วยเหตุว่า ยาที่หมอจ่ายให้ กินแล้วเอาไม่อยู่ คุณหมอแนะนำข้าพเจ้าว่า ทำบันทึก เวลากินยา จำนวนยาที่กิน สักเดือน หลังจากนั้น ข้าพเจ้าพาคุณน้าไปหาหมอ และบอกว่า พบว่า ไม่ได้ผล ข้าพเจ้าได้รับสติปัญญาจากพระเจ้าว่า ปัญหาคือวิธีเตรียมยา ที่ทำให้ยานั้นหมดฤทธิ์ ในการรักษา (เสื่อมเพราะถูกแสง)คุณหมอไม่มีทางรู้เลยว่า  คุณน้าข้าพเจ้า แกะยาใส่กล่องใส ตามวันเวลาที่มีเป็นช่องๆ ถึงเวลาก็เอาออกจากกล่องมาทาน โดยไม่รู้ว่า ยาเหล่านี้ ต้องอยู่ในบรรจุห้ามถูกแสง ข้าพเจ้าคุยกับคุณหมอหลายประเด็น จนคุณหมอถามข้าพเจ้าว่าขอถามหน่อยนะครับ จบมาทางด้านนี้หรือครับ ข้าพเจ้าตอบคุณหมอว่า เปล่าค่ะ แค่ทำการบ้าน มากขึ้นหน่อย ทางเน็ตมีให้อ่านเยอะแยะ แต่ต้องตั้งคำถามให้ตรงก็จะไดคำตอบ

แต่ความจริง ข้าพเจ้ากำลังตามพระเยซูคริสต์…แพทย์ผู้ประเสริฐ ผู้ให้สติปัญญาแก่ข้าพเจ้า

ครั้งหนึ่งข้าพเจ้าเป็นลมพิษมาก อธิษฐานกับพระเจ้าเท่าไหร่ก็ไม่หาย ก็เลยเปลี่ยนวิธี ขอสติปัญญาจากพระเจ้าว่า จะทำอย่างไร และก็ได้รับคำตอบจากพระเจ้าว่า ไปหาความรู้เรื่องนี้ และข้าพเจ้าก็หายดีจากลมพิษ ด้วยการ แก้ปัญหาภูมิต้านทานของตนเองที่อ่อนแอให้แข็งแรง

ตามพระเยซูคริสต์…แพทย์ผู้เสริฐ ในยุคนี้ แน่นอนว่า การอัศจรรย์ การรักษาโรคยังมีอยู่ เรายังได้ยินเรื่องการหายโรค โดยฤทธิ์เดชของพระเจ้า แต่เราก็ได้ยินการหายโรค สุขภาพที่ดี จากการได้รับสติปัญญาจากพระเยซูคริสต์ด้วย ในพระกิตติคุณหลายเล่มบันทึกว่า คำตอบที่พระเยซูคริสต์ตรัสกับคนที่ป่วย บางครั้งก็จะมีคำว่า อย่าไปทำบาปอีกล่ะ สาเหตุของความป่วย ไม่น้อย ก็มาจากความบาปที่คนๆนั้นทำก็เป็นได้

อย่างโควิดที่ระบาดหนัก ก็ส่วนใหญ่จะมาจากแหล่งอบายมุขทั้งนั้น

ยากอบ 5:15-16  15 และ​การ​อธิษฐาน​ด้วย​ความ​เชื่อ​จะ​ช่วย​ให้​ผู้ป่วย​รอด​ชีวิต และ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​จะ​ทรง​โปรด​ให้​เขา​หาย​โรค และ​ถ้า​เขา​ได้​กระทำ​บาป​พระ​องค์​ก็​จะ​ทรง​โปรด​อภัย​ให้​16 เหตุ​ฉะนั้น​ท่าน​ทั้ง​หลาย​จง​สารภาพ​บาป​ต่อ​กัน​และ​กัน และ​จง​อธิษฐาน​เพื่อ​กัน​และ​กัน เพื่อ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​จะ​พ้น​โรคภัย คำ​อธิษฐาน​ของ​ผู้​ชอบธรรม​นั้น​มี​พลัง​ทำ​ให้​เกิดผล​

ตามพระเยซูคริสต์…แพทย์ผู้ประเสริฐ  คำพูดหนึ่งกล่าวว่า คุณหมอไม่รู้หรอกว่า เราป่วยเป็นอะไร ถ้าเราสื่อสารกับคุณหมอได้ถูกต้อง คุณหมอก็จะทำการรักษาเราได้ แต่ปัญหาคือ เราจะสามารถสื่อสารกับคุณหมอได้อย่างชัดเจนว่าเราป่วยเป็นอะไร นั่นคือ สติปัญญา   พระเยซูคริสต์มีชื่อเรียกอีกนามว่า  wisdom แปลว่า พระปัญญา  พระองค์ทรงเป็นแพทย์ผู้ประเสริฐที่ทรงสติปัญญา รอบรู้ และทรงใช้สติปัญญของพระองค์อย่างสมเหตุสมผล เหมาะกับแต่ละคน   พระองค์จะให้เราหายด้วยการอัศจรรย์ หรือหายด้วยสติปัญญา ที่จะใช้ทรัพยากรต่างๆในโลกนี้ ก็อยู่ที่น้ำพระทัยของพระเจ้าที่เราควรจะรู้ บางทีพระเจ้าก็ต้องการจะให้เราเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ทำให้เราป่วย ถ้าเราอาศัยการอัศจรรย์อย่างเดียว เราก็จะกลับไปป่วยซ้ำได้ และเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีแก่คนรอบข้างในการดำเนินชีวิต และจะพากันป่วยไปด้วย

ข้าพเจ้าเชื่อแน่ว่า พระเจ้าทรงนำคริสตจักรของเรา เมื่อหลายปีก่อน สักเกือบสิบปีแล้ว ที่ข้าพเจ้าได้เทศนาเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพของตัวเราเอง เพื่อให้เราแข็งแรงมีอายุยืนยาว และสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดได้ ขอบคุณพระเจ้าสำหรับดร.สุรเชษฐ์ จากเซเว่นเดย์แอดแวนติสต์ได้นำทีมมาสอนเราที่นี่ ให้รู้จัก NEWSTART วิถีการกิน การใช้ชีวิตใหม่ เวลานั้น ข้าพเจ้าอายุ 52 ปี ขอบคุณพระเจ้า ที่อ.สุรเชษฐ์เตือนข้าพเจ้า เรื่องการลดน้ำหนัก  ข้าพเจ้าเปลี่ยนวิถีชีวิตตามนั้นทันที วันนี้ ข้าพเจ้าแข็งแรงพอที่จะไม่ป่วย ไม่มีโรคประจำตัว NCDs ทำให้ข้าพเจ้ามีต้นทุนสุขภาพที่ดีพอสมควร ที่จะรับใช้พระเจ้าได้ในยามที่โลกวิกฤติเรื่องโควิด

วันนี้ ข้าพเจ้าเขียนสาส์นศิษยาภิบาล ชื่อหัวข้อว่า รู้กาละ…ไม่ใช่แค่รู้ข้อมูล  และยกตัวอย่างของเผ่าอิสสาคาร์ ในหนังสือพระคัมภีร์เดิม

1พงศาวดาร 12:32  จาก​เผ่า​อิสสา​คาร์ มี​ผู้รู้​กา​ละ ทราบ​ว่า​อิสราเอล​ควร​ทำ​ประการ​ใด มี​หัวหน้า​สอง​ร้อย​คน และ​ญาติ​ของ​เขา​ทั้งสิ้น​อยู่​ใต้​บังคับ​บัญชา​ของ​เขา​

เผ่าอิสสาคาร์รู้ว่า ประเทศอิสราเอลในเวลานั้น อยู่ในภาวะสงคราม การต่อสู้กับศัตรูของประเทศรอบด้าน  เผ่าอิสสาคาร์ได้เตรียมตัวเอง กับคนในครอบครัว เพื่อจะรับมือกับสงครามนั้น  จนพระคัมภีร์ได้บันทึกว่า เป็นเผ่าที่รู้กาละ แปลว่า รู้จังหวะเวลา และตอบสนองได้อย่างเหมาะสม อย่างที่ประเทศชาติกำลังต้องการ

คำถามก็คือว่า วันนี้ เราทั้งหลายรู้ว่า เรากำลังต่อสู้ในสงครามกับศัตรูที่มองไม่เห็น มันคือโควิดที่กำลังโจมตีสุขภาพไปยังปอดของทุกคน  ปอดสำคัญต่อร่างกาย เกี่ยวกับลมหายใจ ถ้าปอดไม่ทำงาน ร่างกายจะเอาลมหายใจจากที่ไหน วันนี้ สิ่งที่ต้องการคือ เครื่องช่วยหายใจ ออกซิเจน แต่กำลังขาดแคลนมาที่อินเดีย  เราคงไม่อยากอยู่ในสภาพนั้น

เรากำลัง  ตามพระเยซูคริสต์…แพทย์ผู้ประเสริฐ  ที่ให้คำแนะนำแก่เราเตรียมชีวิตเราอย่างไร

ข้าพเจ้าขอบคุณพระเจ้า ที่แรงจูงใจที่ทำให้ข้าพเจ้าเปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่ ด้วย NEWSTART ทำให้มีวันนี้ ที่ยังแข็งแรง ข้าพเจ้าลงทะเบียนจะฉีดวัคซีน แอพหมอพร้อมตอบกลับมาว่า คุณไม่ได้อยู่ในกลุ่มที่จะรับวัคซีนในตอนนี้ ผิดหวังไม๊ บอกได้ว่า ผิดหวัง  อีกทางหนึ่ง ก็รู้สึกดี และตอบตัวเองได้ว่า  เออ เราช้าหน่อยได้  แต่คนที่รีบกว่า คือคนที่ป่วย มีโรคประจำตัว

คำถามก็คือว่า ถ้าเราไม่ได้เตรียมตัวเองมาก่อนเลย เรายังทันไม๊  อันนี้ ไม่มีคำตอบ แต่อยากถามกลับว่า แล้วที่ไม่สบายและป่วยอยู่ คุณอยากจะหนักกว่าเดิมไม๊ ถ้าไม่อยาก การเปลี่ยนวิถีการกิน วิถีชีวิตใหม่ ก็น่าจะทัน  นอกจากจะไม่เร่งให้ป่วยหนักแล้ว ยังอาจเปลี่ยนจากหนักให้เป็นเบา หรือบรรเทาได้ เปลี่ยนเถอะ ข้าพเจ้าเชื่อแน่ว่า  NEWSTART คือการฟังคำแนะนำจากพระเยซูคริสต์…แพทย์ผู้ประเสริฐ  อย่ามัวแต่รอการอัศจรรย์จากพระองค์อย่างเดียว การเป็นแพทย์ผู้ประเสริฐของพระเยซูคริสต์ ไม่ใช่เพื่อการอัศจรรย์หายโรคอย่างเดียว แต่ข้าพเจ้าเชื่อแน่ว่า การเป็นแพทย์ผู้ประเสริฐของพระเยซูคริสต์ คือสติปัญญา และการรอบรู้ของพระองค์มาถึงเรา ให้เราเป็นคนที่รู้กาละ ควรทำอะไร เมื่อไร อย่างไร

NEWSTART คืออะไร

1.เปลี่ยนวิถีการกินที่ไม่ทำลายสุขภาพ คนอิสราเอล เดินในทะเลทราย และกินแต่มานา ภายหลังมีนกคุ่มบ้าง ตลอดสี่สิบปี ข้าพเจ้าคิดนะ นั่นคือ การดีท๊อกสุขภาพของคนอิสราเอล จากการกินอาหารของคนอียิปต์ที่ทำให้ป่วย มีการค้นพบว่า มัมมี่ของคนอียิปต์ ตายเพราะโรคเบาหวาน ฝันผุ และอื่นๆ

2.เปลี่ยนวิถีการออกกำลังกาย ที่จะทำให้แข็งแรงอย่างครบถ้วน ทั้งหัวใจ กล้ามเนื้อ และการยืดหยุ่นเส้นเอ็น

3.เปลี่ยนวิถีการดื่มน้ำ น้ำสะอาดก็เพียงพอแล้ว บางคนว่า ต้องดื่มกาแฟ ทำให้หายโรคนั้นโรคนี้ ข้าพเจ้ามักตอบคนที่พูดอย่างนี้ว่า มีวิธีอื่นที่จะหายจากโรคที่ว่า โดยไม่ต้องดื่มกาแฟ ก็มีนะ

4.รับแสงแดดที่สร้างไวตามินดี มีการค้นพบว่า วิตามินดี ทำให้ฟื้นฟูจากติดเชื้อโควิดได้ดี และทำให้มีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง

5.อารมณ์ที่สมดุล ไม่ได้แปลว่า เราจะไม่โกรธ ไม่เศร้า ไม่กลัวเลย อารมณ์เหล่านี้ เป็นเหมือนคนยามที่เตือนเราว่า มีบางอย่างผิดปกติ แต่เราต้องฝึกที่จะควบคุมอารมณ์ได้ ไม่ผิดที่จะมีอารมณ์เหล่านี้ การควบคุมไม่ให้ตัวเองโกรธ เศร้า หรือกลัว บางทีก็ส่งผลลบต่อสุขภาพ

6.อากาศที่สะอาด การถ่ายเทที่ดี ข้าพเจ้ามีเพื่อนบ้านที่มักถอยรถพ่นควันพิษเข้าบ้านข้าพเจ้า ในขณะที่บ้านข้าพเจ้าอยู่ติดสวน ข้าพเจ้ามักจะใช้เวลานอกบ้าน เพื่อรับอากาศที่บริสุทธิ์ แต่ก็ต้องหาทางป้องกันอากาศพิษที่เกิดจากเพื่อนบ้าน เราเปลี่ยนเขาไม่ได้ เราก็เปลี่ยนตัวเอง

7.พักผ่อนให้เพียงพอ การนอน เป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุด นอนให้พอ นอนให้เป็นเวลา และนอนอย่างมีคุณภาพ ไม่จำเป็นต้องนอนเยอะ การนอนเกินก็ทำให้ป่วยได้

8.ไว้วางใจในพระเจ้า คือสิ่งที่สำคัญ การอ่านพระคัมภีร์ การอธิษฐาน การนมัสการพระเจ้าผ่านทางออนไลน์ในเวลานี้ (เพราะห้ามรวมตัวกันเกิน 20 คน) ก็คือการแสดงออกถึงการไว้วางใจในพระเจ้า ยังรักษาความเชื่อ ในพระเจ้า ยังเชื่อฟัง ในการเป็นส่วนหนึ่ง ของคริสตจักร เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน มีส่วนร่วมกับคริสตจักรในทุกด้าน ทั้งหมดนี้ คือการแสดงออกถึงความไว้วางใจในพระเจ้า ในยามคับขัน เราจะได้ยินเสียงของพระเยซูคริสต์เจ้า เป็นคำแนะนำจากแพทย์ผู้ประเสริฐ และเมื่อถึงความจำกัดของเราเมื่อไหร่ เราจะเห็นการอัศจรรย์ในการเยียวยารักษาเกิดขึ้นแน่นอน

เยเรมีย์ 29:11-14  11 ​พระ​เจ้า​ตรัส​ว่า เพราะ​เรา​รู้​แผนงาน​ที่​เรา​มี​ไว้​สำหรับ​เจ้า เป็น​แผนงาน​เพื่อ​สวัสดิภาพ ไม่ใช่​เพื่อ​ทุกข​ภาพ เพื่อ​จะ​ให้​อนาคต​และ​ความ​หวัง​ใจ​แก่​เจ้า​12 แล้ว​เจ้า​จะ​ทูล​ขอ​ต่อ​เรา และ​มา​อธิษฐาน​ต่อ​เรา และ​เรา​จะ​ฟัง​เจ้า​13 เจ้า​จะ​แสวงหา​เรา​และ​พบ​เรา​เมื่อ​เจ้า​แสวงหา​เรา​ด้วย​สิ้นสุด​ใจ​ของ​เจ้า14 ​พระ​เจ้า​ตรัส​ว่า เรา​จะ​ให้​เจ้า​พบ​เรา และ​เรา​จะ​ให้​เจ้า​กลับ​สู่​สภาพ​ดี….

 ตามพระเยซูคริสต์…แพทย์ผู้ประเสริฐ (ในสถานการณ์โควิด)

By admin