“มีใจเดียว” Oneness

คนส่วนใหญ่มักจะคาดหวังให้เราคิดเหมือนกับเขา หรือเขาคิดเหมือนกับเรา เมื่อคิดไม่เหมือนกัน ก็จะรู้สึกว่า เขาไม่ใช่พวกเรา เราไม่ใช่พวกเขา บางคนก็ให้สวมเสื้อผ้าเหมือนกันจะได้ดูราวกับว่าเป็นทีมเดียวกัน ยูนิฟอร์มต่างๆได้ถูกสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อความรู้สึกของความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แต่ในความเป็นจริง มีความแตกแยกอยู่ภายใต้ยูนิฟอร์มหรือที่เรียกว่าทีม แต่ไม่เป็นทีม ใกล้ตัวหน่อยก็คือ ภายใต้นามสกุลเดียวกัน อาจมีความแตกแยก ครอบครัวไม่เป็นครอบครัว ได้ ถ้าอย่างนั้น…. สิ่งที่พระคัมภีร์กำลังบอกเราถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ยากที่จะเป็นไปได้ และข้าพเจ้าก็เห็นด้วยว่า ไม่มีทางเป็นไปได้ เป้าหมายของพระคัมภีร์สูงเกินความเป็นจริง โดยเฉพาะความเป็นใจเดียว เอเฟซัส 4:3-5  3 จง​เพียร​พยายาม​ให้​คง​ความ​เป็น​น้ำ​หนึ่ง​ใจ​เดียว​กัน ซึ่ง​พระ​วิญญาณ​ทรง​ประทาน​นั้น​ด้วย​สันติภาพ​เป็น​พันธนะ​4 มี​กาย​เดียว​และ​มี​พระ​วิญญาณ​องค์​เดียว เหมือน​มี​ความ​หวัง​ใจ​อัน​เดียว​ที่​เนื่อง​ใน​การ​ที่​ทรง​เรียก​ท่าน​5 มี​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​องค์​เดียว ความ​เชื่อ​เดียว บัพติศมา​เดียว   ​แต่ภาพที่พระคัมภีร์กำลังบอกเราในเรื่องความเป็น “ใจเดียว” ไม่ใช่ภาพอย่างมนุษย์คิด เพราะว่า ความเป็นใจเดียวนี้ มาจากพระวิญญาณเป็นผู้ประทาน ความพยายามที่ว่าไม่ใช่เราสามารถสร้างความเป็นใจเดียวด้วยตัวเราเองได้ แต่ความพยายามที่ว่า คือความพยายามในการเชื่อฟังและไปในทิศทางเดียวกันตามที่พระวิญญาณทรงนำ ดังนั้นความเป็น “ใจเดียว” สามารถเกิดขึ้นได้ โดยการนำของพระวิญญาณ เนื้อหนังทำไม่ได้ ก็คือ การมีกายเดียว พระวิญญาณเดียว หวังใจเดียวกันจากการทรงเรียก พระเจ้าองค์เดียวกัน ความเชื่อเดียว และบัพติศมาเดียว ทั้งหมดคือ Oneness ใจเดียว

แท้จริงคริสเตียนเป็นพวกที่สับสนมากที่สุด เพราะว่าเรามีสองธรรมชาติในกายเดียวของเรา แต่ก่อน เรามีธรรมชาติเดียว คือธรรมชาติบาป แต่เมื่อเรามาเชื่อพระเยซู มีธรรมชาติใหม่เกิดขึ้น คือธรรมชาติของพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระคัมภีร์กาลาเทียจึงกล่าวถึงการต่อสู้ระหว่างสองธรรมชาติในกายเดียว ระหว่างเนื้อหนังกับพระวิญญาณ คริสเตียนจึงเป็นพวกที่สับสนมาก เพราะมีสองธรรมชาติ เดี๋ยวเอาพระวิญญาณ เดี๋ยวเอาเนื้อหนัง อ.เปาโลพยายามต่อสู้กับเนื้อหนังของท่าน 1โครินธ์ 9:27 27แต่​ข้าพเจ้า​ก็​ทุบ​ตี​ร่างกาย​ให้​มัน​แข็ง​จน​อยู่​มือ เพราะ​เกรง​ว่า​เมื่อ​ข้าพเจ้า​ได้​ประกาศ​ข่าว​ประเสริฐ​แก่​คน​อื่น​แล้ว ตัว​ข้าพเจ้า​เอง​จะ​เป็น​คน​ที่​ใช้​การ​ไม่ได้​   ในความสับสนนี้ คือความสับสนที่ดี เมื่อเรามองเห็นตัวเองมีสองธรรมชาติ และในการสับสนคือการต่อสู้ ถ้าเราไม่สับสน เราจะมีแนวโน้มกลับไปสู่ชีวิตเก่าที่เป็นการงานของเนื้อหนังล้วนๆ ทำบาปแบบไม่รู้สึกรู้สา เดินตรงกันข้ามกับน้ำพระทัยพระเจ้าอย่างคนใจแข็งกระด้าง และไม่สนใจเรื่องความเป็นใจเดียว

ในทางตรงกันข้าม คุณจะไม่รู้สึกอยากจะเป็นใจเดียวกับคนอื่น คุณอยากจะมีใจเดียวของตนเอง ไม่อยากเข้ากับใคร แม้กระทั่งการรับใช้ คุณก็อยากจะทำพันธกิจที่เรียกว่า ฟรีแลนซ์ อิสระไม่ขึ้นกับใคร หากเป็นครอบครัว คุณจะอยากจะโบยบินออกจากความรู้สึกไม่อยากอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของพ่อแม่ อยากจะไปใช้ชีวิตอิสระ ไม่อยากจะเป็นใจเดียวกับคนในครอบครัวเดียวกัน ขอพระเจ้าทรงโปรดช่วยเราให้เข้าใจถึงความเป็นใจเดียว การยอมจำนน ยอมเชื่อฟัง เป็นเรื่องที่ดี เพราะเป็นการเชื่อมต่อความสัมพันธ์ที่ดี เป็นสังคม ทุกวันนี้ เรากำลังถูกใส่ความคิดของการแยกตัวเองออกเป็นอิสระ จนกลายเป็นกับดัก เป็นอุปสรรคต่อการเป็นสังคม เป็นครอบครัว เพราะบาดแผล หรือความผิดพลาดของครอบครัวที่ล้มเหลว จึงทำให้ครอบครัวกลายเป็นสิ่งที่คนพยายามหนีการเป็นครอบครัว

มีคำที่ว่า ถ้าพ่อแม่ตายเมื่อไหร่ ก็หมดความเป็นครอบครัว ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างไป นี่คือภาพของการไม่มีใจเดียวแล้ว พ่อแม่เป็นศูนย์รวมของการมีใจเดียว นี่กระมังที่พระเจ้าทรงมองเห็นอนาคตอันยาวไกลของมนุษยโลกที่กำลังสูญเสียความเป็นใจเดียวจนสุดท้ายไม่เหลือหัวใจไว้รวมกับใครอีกเลย เพราะใจของมนุษย์แตกสลายไปความบาป การทำตามใจตนเอง และการโอ้อวดของตนเอง

ฟิลิปปี 2:5-7 5 ท่าน​จง​มี​น้ำใจ​ต่อ​กัน​เหมือน​อย่าง​ที่​มี​ใน​พระ​เยซู​คริสต์ 6ผู้​ทรง​สภาพ​ของ​พระ​เจ้า แต่​มิได้​ทรง​ถือ​ว่า​การ​เท่า​เทียม​กับ​พระ​เจ้า​นั้น​เป็น​สิ่ง​ที่​จะต้อง​ยึดถือ​ 7แต่​ได้​กลับ​ทรง​สละ และ​ทรง​รับ​สภาพ​ทาส ทรง​ถือ​กำเนิด​เป็น​มนุษย์  ​พระคัมภีร์ตอนนี้กล่าวถึง การมีความคิดอย่างเดียวกันกับพระเยซูคริสต์ พระเยซูคิดอย่างไร พระองค์มีความคิดที่จะเป็นใจเดียวกันกับมนุษย์ พระองค์จึงสละสถานะความเป็นพระเจ้า ถ่อมลงมา จนถึงความตาย คือตายบนไม้กางเขนอย่างมนุษย์ที่มีบาปที่สุด เพื่อจะนำมนุษย์กับมาคืนดีกับพระเจ้า เป็นการตายแทนมนุษย์ทั้งหลาย

ยอห์น1:14  14 ​พระ​วาทะ​ได้​ทรง​บังเกิด​เป็น​มนุษย์​และ​ทรง​อยู่​ท่ามกลาง​เรา บริบูรณ์​ด้วย​พระ​คุณ​และ​ความ​จริง เรา​ทั้ง​หลาย​ได้​เห็น​พระ​สิริ​ของ​พระ​องค์ คือ​พระ​สิริ​อัน​สม​กับ​พระ​บุตร​องค์​เดียว​ของ​พระ​บิดา​ พระเยซูพระบุตรพระเจ้าได้มาอยู่ท่ามกลางเรา เพื่อเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับเรา พระเยซูทรงอธิษฐานเผื่อสาวก เป้าหมายก็คือความเป็นใจเดียวกันกับพระเจ้าพระบิดา ใจเดียวกับพระเยซู และใจเดียวกันและกัน

ยอห์น17:20-21  20“ข้า​พระ​องค์​มิได้​อธิษฐาน​เพื่อ​คน​เหล่า​นี้​พวก​เดียว แต่​เพื่อ​คน​ทั้ง​ปวง​ที่​วางใจ​ใน​ข้า​พระ​องค์​เพราะ​ถ้อยคำ​ของ​เขา​21เพื่อ​เขา​ทั้ง​หลาย​จะ​ได้​เป็น​อัน​หนึ่ง​อัน​เดียว​กัน ดังที่​พระ​องค์ คือ​พระ​บิดา​ทรง​สถิต​ใน​ข้า​พระ​องค์ และ​ข้า​พระ​องค์​ใน​พระ​องค์ เพื่อให้​เขา​เป็น​อัน​หนึ่ง​อัน​เดียว​กัน​กับ​พระ​องค์ และ​กับ​ข้า​พระ​องค์​ด้วย เพื่อ​โลก​จะ​ได้​เชื่อ​ว่า​พระ​องค์​ทรง​ใช้​ข้า​พระ​องค์​มา​  พระเยซูทรงทำส่วนของพระองค์สำเร็จแล้ว และส่วนที่พระองค์ยังอธิษฐาน และอธิษฐานก็คือส่วนที่พวกเราทั้งหลายต้องทำหน้าที่ของเรา คือ ไปให้ถึงการมี “ใจเดียว” ซึ่งไม่ง่ายเลย เพราะคนเรามักจะมีสองใจ  และเมื่อเราเข้ามาเดินในเส้นทางเดียวกันกับพระเยซู เราต้องไปให้ถึงการมีใจเดียว อย่างที่หนังสือยากอบ4:8 8ท่าน​ทั้ง​หลาย​จง​เข้า​ใกล้​พระ​เจ้า และ​พระ​องค์​จะ​เสด็จ​มา​ใกล้​ท่าน คน​บาป​ทั้ง​หลาย​เอ๋ย จง​ชำระ​มือ​ให้​สะอาด และ​คน​สอง​ใจ จง​ชำระ​ใจ​ของ​ตน​ให้​บริสุทธิ์​ ยากอบกำลังบอกว่า เราสามารถไปให้ถึงการมีใจเดียวได้ และใจเดียวนี้แหล่ะ คือกุญแจสำคัญที่จะทำให้เราเติบโตไปถึงความไพบูลย์ของพระคริสต์

เอเฟซัส 4:11-16 11 ของ​ประทาน​ของ​พระ​องค์ ​ก็​คือ​ให้​บาง​คน​เป็น​อัครทูต บาง​คน​เป็น​ผู้เผย​พระ​วจนะ บาง​คน​เป็น​ผู้​เผยแพร่​ข่าว​ประเสริฐ บาง​คน​เป็นศิษ​ยาภิ​บาล​และ​อาจารย์​12 เพื่อ​เตรียม​ธรรมิก​ชน​ให้​เป็น​คน​ที่​จะ​รับ​ใช้ เพื่อ​เสริมสร้าง​พระ​กาย​ของ​พระ​คริสต์​ให้​จำเริญ​ขึ้น​13 จนกว่า​เรา​ทุก​คน​จะ​บรรลุ​ถึง​ความ​เป็น​น้ำ​หนึ่ง​ใจ​เดียว​กัน​ใน​ความ​เชื่อ และ​ใน​ความ​รู้​ถึง​พระ​บุตร​ของ​พระ​เจ้า จนกว่า​เรา​จะ​โต​เป็น​ผู้ใหญ่​เต็มที่ คือ​เต็ม​ถึง​ขนาด​ความ​ไพบูลย์​ของ​พระ​คริสต์​14 เพื่อ​เรา​จะ​ไม่​เป็น​เด็ก​อีก​ต่อไป ถูก​ซัด​ไป​ซัด​มา​และ​หัน​ไป​เหมา​ด้วย​ลมปาก​แห่ง​คำ​สั่ง​สอน​ทุก​อย่าง และ​ด้วย​เล่ห์​กล​ของ​มนุษย์​ตาม​อุบาย​ฉลาด​อัน​เป็น​การ​ล่อลวง​15 แต่​ให้​เรา​ยึด​ความ​จริง​ด้วย​ใจ​รัก เพื่อ​จะ​จำเริญ​ขึ้น​ทุก​อย่าง​สู่​พระ​องค์​ผู้​เป็น​ศีรษะ คือ​พระ​คริสต์​16 คือ​เนื่องจาก​พระ​องค์​นั้น ร่างกาย​ทั้งสิ้น​ที่​ติดต่อ​สนิท​และ​ประสานกัน​โดย​ทุกๆ ข้อ​ต่อ​ที่​ทรง​ประทาน ได้​จำเริญ​เติบโต​ขึ้น​ด้วย​ความ​รัก เมื่อ​อวัยวะ​ทุก​อย่าง​ทำงาน​ตาม​ความ​เหมาะสม​แล้ว​

เราต้องการคนที่มีของประทานห้าอย่าง Five Fold Ministries เราต้องการคนที่จะเตรียมเราให้เป็นคนที่จะรับใช้ เพื่อเสริมสร้างพระกายให้จำเริญขึ้น เราต้องการกันและกัน อย่าคิดว่าเราจะสามารถเติบโตขึ้นโดยปราศจากของประทานห้าอย่างนี้ บทบาทของศิษยาภิบาลและอาจารย์สำคัญพอๆกับบทบาทของผู้เผยพระวจนะ อัครทูต และผู้ประกาศข่าวประเสริฐ  และในยุคนี้ ศิษยาภิบาลและอาจารย์ต้องการของประทานของผู้เผยพระวจนะอย่างมาก จะเป็นแต่ศิษยาภิบาลและอาจารย์โดยขาดการเปิดเผย การสำแดง การตรัสของพระเจ้าก็ไม่ได้ เราต้องการข่าวสารจากพระเจ้า ของประทานเหล่านี้อาจมีในคนหนึ่งมากกว่าหนึ่งอย่างก็เป็นได้ นี่คือสิ่งที่พระคัมภีร์เอเฟซัสตอนนี้ได้กล่าวเกี่ยวกับการรับการเสริมสร้างไปจนถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ความเป็นใจเดียวไม่ได้เกิดขึ้นเอง และสร้างขึ้นแต่ตัวเองคนเดียวไม่ได้ ต้องไปด้วยกัน โตคนเดียวไม่ได้ ต้องโตไปพร้อมๆกัน และคนที่โตก็จะพาคนอื่นโตด้วย ไม่ใช่ไม่สนใจคนอื่นตัวเองเอาตัวรอดก็พอ และถ้าเราไม่สามารถเป็นใจเดียวกับที่ที่เราอยู่ เราจะออกไปสร้างคริสตจักรที่มีใจเดียวก็ไม่ได้ เพราะเราไม่สามารถให้ในสิ่งที่เราไม่มี ไม่ได้ บทเรียนสำหรับเราวันนี้ก็คือ เรากำลังก้าวไปสู่การมีใจเดียว ซึ่งต้องฝ่าฟันอุปสรรคของการมีใจเดียว ก็คือ การจัดการกับการมีสองใจ

1.จัดการกับใจที่ไม่มั่นคง  ยากอบ 1:8

8เขา​เป็น​คน​สอง​ใจ​ไม่​มั่นคง​ใน​บรรดา​ทาง​ที่​ตน​ประพฤติ​นั้น

ใจที่ไม่มั่นคง คือใจที่ไม่เสมอต้นเสมอปลาย มีความคิดไอเดียดีๆ แต่ทำไม่จบ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา หันไปเหมาตามลมปากของมนุษย์ ใจไม่แน่วแน่ มีความสงสัย คำว่า สองใจ รากศัพท์ภาษากรีก แปลว่า มีความคิดมากกว่าหนึ่งความคิด ทั้งความคิดของตนเอง ความคิดของคนอื่นๆ อาจมีความคิดของพระเจ้า และอาจไม่มีความคิดของพระเจ้าเลยก็ได้ แยกแยะไม่ออกระหว่างภาระใจของตนเอง หรือภาระใจของคนอื่น ไม่มีนิมิต สุภาษิต 29:18  18 ที่​ที่​ไม่​มี​นิมิต ประ​ชา​ชน​ก็​ปล่อยตัว….(1971 ละทิ้งความยับยั้งชั่งใจ) คำว่า นิมิต รากศัพท์แปลว่า การสำแดง ถ้อยคำ และการมองเห็นอนาคต คำว่า ปล่อยตัว หรือละทิ้งความยับยั้งชั่งใจ ภาษาอังกฤษใช้คำว่า พินาศ (Perish) คนสองใจกำลังเดินไปสู่เส้นทางแห่งการปล่อยตัว ละทิ้งความยับยั้งชั่งใจ และสู่เส้นทางแห่งความพินาศ  ยากอบ 1:5-8  5ถ้า​ผู้ใด​ใน​พวก​ท่าน​ขาด​สติปัญญา ​ก็​ให้​ผู้​นั้น​ทูล​ขอ​จาก​พระ​เจ้า ผู้​ทรง​โปรด​ประทาน​ให้แก่​คน​ทั้ง​ปวง​ด้วย​พระ​กรุณา​และ​มิได้​ทรง​ตำหนิ แล้ว​ผู้​นั้น​ก็​จะ​ได้รับ​สิ่ง​ที่​ทูล​ขอ 6แต่​จง​ให้​ผู้​นั้น​ทูล​ขอ​ด้วย​ความ​เชื่อ อย่า​สงสัย​เลย เพราะ​ว่า​ผู้​ที่​สงสัย​เป็น​เหมือน​คลื่น​ใน​ทะเล​ซึ่ง​ถูก​ลม​พัด​ซัด​ไป​มา​7ผู้​นั้น​จง​อย่า​คิด​ว่า​จะ​ได้รับ​สิ่ง​ใด​จาก​พระ​เจ้า​เลย​8เขา​เป็น​คน​สอง​ใจ​ไม่​มั่นคง​ใน​บรรดา​ทาง​ที่​ตน​ประพฤติ​นั้น  เราทุกคนล้วนอยู่ในภาวะที่เรียกว่า ใจที่ไม่มั่นคง คือเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาได้ เพราะความรู้ของเราไม่สมบูรณ์ เราเห็นภาพสลัวๆ เราเห็นไม่ชัด เราจึงต้องมีความเชื่อมั่นใจพระเจ้า ไว้วางใจในการทรงนำของพระเจ้า พระคัมภีร์เปรียบเทียบคนในโลกนี้เหมือนกับแกะ ซึ่งมีธรรมชาติของสายตาที่สั้น มองได้ระยะใกล้ จึงต้องมีผู้เลี้ยง น่าสนใจที่เราไม่เคยได้ยินเรื่องแกะป่า หรือแกะที่อาศัยในป่า หรืออาจจะมีแต่ไม่เหลือเป็นแกะอิสระอีกต่อไป เพราะมันมีธรรมชาติที่สายตาสั้น มันจึงดำรงอยู่ในป่าโดดเดี่ยวตัวเดียวไม่ได้ เราจึงเห็นแต่แกะเลี้ยง คือมีผู้เลี้ยง พระเจ้าจึงยกตัวอย่างมนุษย์เป็นเหมือนแกะ ที่ต้องการการนำจากผู้เลี้ยง พระคัมภีร์ยากอบเปรียบเทียบคนที่ใจไม่มั่นคง คือการมีความคิดมากกว่าหนึ่ง คำว่า ไม่สมควรได้รับสิ่งใดจากพระเจ้าแปลความว่า หากเราเป็นแกะที่สายตาสั้น และไม่ยอมอยู่ภายใต้การนำของพระเจ้า เรากำลังเป็นแกะที่ไปไม่ถึงการเลี้ยงดู การจัดเตรียมของพระเจ้า เพราะตัวเราเอง ความคิดของเราเอง จะนำเราไปในที่ที่เราคิดว่า เราหากินได้เอง เราจัดเตรียมเพื่อตัวเราเอง เราสร้างพันธกิจขึ้นมาเอง สร้างการรับใช้เอง เราไม่ต้องการสิ่งใดจากพระเจ้า นี่คือความหมายของยากอบ คือเราเป็นคนปฏิเสธสิ่งที่มาจากพระเจ้าเอง ไม่ใช่พระเจ้าไม่ต้องการจะให้สิ่งใดแก่คนของพระองค์ แต่เราไปในทางที่ไม่มีการจัดเตรียมของพระเจ้า

เราจึงเห็นคริสเตียนที่ขาดแคลน คริสเตียนที่เสียเวลา คริสเตียนที่ขาดความแม่นยำในการตัดสินใจ เพราะ 8เขา​เป็น​คน​สอง​ใจ​ไม่​มั่นคง​ใน​บรรดา​ทาง​ที่​ตน​ประพฤติ​นั้นความไม่มั่นคงในบรรดาทางที่ตนประพฤตินั้น หมายถึง ประกาศว่าตนเองเชื่อและไว้วางใจพระเจ้า แต่ทำตรงกันข้าม คือไว้ใจความรู้สึกของตนเองมากกว่าไว้วางใจในพระเจ้า นั่นคือความสงสัยในการนำของพระเจ้า สงสัยในการเจิมตั้งผู้นำของพระเจ้า สงสัยในการทรงเรียก สงสัยในครอบครัวที่เราเกิดมา บางคนคิดอย่างนี้ ว่า ครอบครัวของเราใช่น้ำพระทัยพระเจ้าให้เราเกิดมาหรือ บางคนสงสัยในบทบาท หน้าที่ที่ตนเองรับผิดชอบอยู่ บางคนสงสัยในที่อยู่อาศัยที่กำลังอยู่ บางคนสงสัยในสถานะความเป็นโสด หรือสถานะชีวิตคู่ ใช่คู่พระพรหรือ บางคนสงสัยในสถาบันที่ตนเองเรียนอยู่ อีกมากมายของความสงสัย เราจึงมองเห็นแต่สิ่งแย่ๆแทนที่จะมองเห็นการจัดเตรียม การลงทุนของพระเจ้าในชีวิตของเรา เราจึงเอาสิ่งที่มีค่าที่พระเจ้าทรงให้กับเราไปถลุงทำลาย เสียของ ไม่คุ้มกับการลงทุนของพระเจ้า เพราะเราคิดว่า เรามีเสรีภาพที่จะทำ กาลาเทีย 5:13 13 ดูก่อน​พี่​น้อง​ทั้ง​หลาย ที่​ทรง​เรียก​ท่าน​ก็​เพื่อให้​มี​เสรีภาพ อย่า​เอา​เสรีภาพ​ของ​ท่าน​เป็น​ช่องทาง​ที่​จะ​ปล่อย​ตัว​ไป​ตาม​เนื้อ​หนัง แต่​จง​รับ​ใช้​กัน​และ​กัน​ด้วย​ความ​รัก​เถิด​  คำว่า “ปล่อยตัว” ในที่นี้ แปลว่า เปิดโอกาสให้การงานของเนื้อหนังทำงาน กาลาเทีย 6:8-9  8 ผู้​ที่​หว่าน​ใน​ย่าน​เนื้อ​หนัง​ของ​ตน ​ก็​จะ​เกี่ยว​เ​ก็​บ​ความ​เปื่อย​เน่า​จาก​เนื้อ​หนัง​นั้น แต่​ผู้​ที่​หว่าน​ใน​ย่าน​พระ​วิญญาณ ​ก็​จะ​เกี่ยว​เ​ก็​บ​ชีวิต​นิรันดร์​จาก​พระ​วิญญาณ​นั้น​ 9อย่า​ให้​เรา​เมื่อยล้า​ใน​การ​ทำ​ดี เพราะ​ว่า​ถ้า​เรา​ไม่​ท้อ​ใจ​แล้ว เรา​ก็​จะ​เกี่ยว​เ​ก็​บ​ใน​เวลา​อัน​สมควร​ ปลายทางของการปล่อยตัวตามเนื้อหนังคือความเปื่อยเน่า แม้จะเป็นการรับใช้ หากมาจากแรงจูงใจของเนื้อหนัง ไม่ใช่จากพระวิญญาณ จากนิมิตภาระใจที่พระเจ้าทรงใส่ให้ เราก็จะเก็บเกี่ยวความเปื่อยเน่า ก็คือผลของการงานเนื้อหนัง พระเจ้าไม่ต้องการให้คนของพระองค์หลงทิศทางอย่างนั้น พระองค์จึงมีผู้เผยพระวจนะ ของประทานการเผยพระวจนะ เพื่อจะสำแดงทิศทางเป็นนิมิตที่ชัดเจนแก่คนของพระองค์ ดังนั้นเราต้องการกันและกัน เราต้องการการเสริมสร้างจากผู้มีของประทานห้าอย่างนี้ในคริสตจักรของเรา  ข้าพเจ้าอยากจะย้ำกับเรา คริสตจักรของเรามีของประทานครบทั้งห้าอย่างอยู่ในใครบางคนท่ามกลางเรา ขอให้เราไปด้วยกันด้วยใจเดียว แล้วเราจะไปถึงความครบถ้วนของพระเยซู จงหยุดพฤติกรรมคนสองใจ สำรวจและจัดการกับสองใจในตนเอง การจะไปสู่ใจเดียว เราต้องจัดการกับอีกใจ

2.จัดการกับใจที่ไม่บริสุทธิ์   ยากอบ4:8

8ท่านทั้งหลายจงเข้าใกล้พระเจ้า และพระองค์จะเสด็จมาใกล้ท่าน คนบาปทั้งหลายเอ๋ย จงชำระมือให้สะอาด และคนสองใจ จงชำระใจของตนให้บริสุทธิ์

นั่นคือใจที่ยังมีที่ติ น่าสนใจมากที่หนังสือเอเฟซัสบทที่สี่ ที่เป็นบทของหัวข้อประจำปีนี้ คือสู่ความไพบูลย์ของพระคริสต์ ได้กล่าวถึงเป้าหมายของความมีใจเดียว ในบทเดียวกัน ว่าต้องจัดการกับใจที่ไม่บริสุทธิ์ ใจเหล่านี้เป็นอุปสรรคของการมีใจเดียว เอเฟซัส 4:17-19,22-23,31 17 เหตุ​ฉะนั้น​ข้าพเจ้า​จึง​ขอ​ยืนยัน​และ​เป็น​พยาน​ใน​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ว่า ตั้งแต่​บัดนี้​เป็น​ต้น​ไป​ท่าน​อย่า​ประพฤติ​อย่าง​คน​ต่างชาติ​ที่​เขา​ประพฤติ​กัน​นั้น คือ​มี​ใจ​จด​จ่อ​อยู่​กับ​สิ่ง​ที่​ไร้​สาระ​18 โดย​ที่​ความ​คิด​ของ​เขา​มืดมน​ไป และ​เขา​อยู่​ห่าง​จาก​ชีวิต​ซึ่ง​มา​จาก​พระ​เจ้า เพราะ​เหตุ​ความ​ไม่​รู้เท่า​ถึง​การ​ซึ่ง​อยู่​ใน​ตัว​เขา อัน​เนื่องจาก​ใจ​ที่​แข็ง​กระด้าง​ของ​เขา​19 เขา​มี​ใจ​ปราศจาก​โอตตัปปะ​ปล่อย​ตัว​ทำ​การ​ลามก​และ​ละโมบ​ใน​กาม ทำ​การ​โสโครก​ทุก​อย่าง….​ 22 ท่าน​จง​ทิ้ง​ตัว​เก่า​ของ​ท่าน ซึ่ง​คู่​กับ​วิถี​ชีวิต​เดิม​นั้น​เสีย อัน​จะ​เสื่อม​เสีย​ไปสู่​ความ​ตาย​ตาม​ตัณหา​อัน​เป็น​ที่​หลอก​ลวง​ 23 และ​จง​ให้​วิญญาณ​จิต​ของ​ท่าน​เปลี่ยน​ใหม่​…31 จง​ให้​ใจ​ขม​ขื่น และ​ใจ​ขัด​เคือง และ​ใจ​โกรธ และ​การ​ทะเลาะ​เถียง​กัน และ​การ​พูด​ให้​ร้าย กับ​การ​คิด​ปอง​ร้าย​ทุก​อย่าง​อยู่​ห่างไกล​จาก​ท่าน​เถิด

เอเฟซัส  4:23 และ​ให้​วิญ​ญาณ​และ​จิตใจ​ของ​พวก​ท่าน​ได้​รับ​การ​เปลี่ยน​ใหม่ (2011)

ใจที่จดจ่ออยู่กับสิ่งที่ไร้สาระ ไม่น่าเชื่อว่าจะถูกนับเข้ากับใจที่ไม่บริสุทธิ์

ใจที่แข็งกระด้าง ก็เป็นอีกใจที่ไม่ยอมรับคำเตือน คำสอนจากพระเจ้า ใจที่ยากจะรัก ใจที่แข็งกระด้าง เป็นใจที่หมดความสามารถในความรักระดับต่ำสุดก็ไม่สามารถรักได้ คือการตอบสนองต่อความรักของคนอื่น รักคนที่น่ารัก คนที่ทำดีด้วย เป็นใจที่มีความคิดมืดมน มองไม่เห็นความสว่างในความสว่าง แม้ความสว่างยังมองเป็นมืดได้

ใจมืดมน  ทำให้ขาดการควบคุมความอยากของตนเอง เลยเถิดไปถึงการทำสิ่งที่ เรียกว่า คือการปล่อยตัวไปกับกิเลศตัณหาเต็มๆ

ใจขมขื่น ใจขัดเคือง ใจโกรธ 31 จง​ให้​ใจ​ขม​ขื่น และ​ใจ​ขัด​เคือง และ​ใจ​โกรธ พฤติกรรมที่วิเคราะห์ว่ามาจากใจเหล่านี้คือ คือ การ​ทะเลาะ​เถียง​กัน และ​การ​พูด​ให้​ร้าย กับ​การ​คิด​ปอง​ร้าย​ทุก​อย่าง พระคัมภีร์กล่าวชัดเจนว่า ต้องจัดการ ด้วยคำว่า “จง…ให้ทุกอย่างนี้อยู่ห่างไกลจากท่านเถิด” 

ถ้าเรามองย้อนกลับขึ้นไปจากท้ายขึ้นบน เราจะเห็นว่า เส้นทางของใจแข็งกระด้าง มาจากใจโกรธ ใจขัดเคือง และใจโกรธก่อน อยู่ๆใจจะแข็งกระด้างเลยไม่ได้ มันมีที่มาของความแตกแยกเล็กๆที่สามารถสร้างความเสียหายใหญ่หลวงได้ จนกลายเป็นรอยแยกใหญ่ ที่ยากจะเอากลับมาคืนดีกัน นี่คือเหตุผลที่หนังสือฮีบรูได้กล่าวถึงความเสียหายที่เกิดจากรากขมขื่น

ฮีบรู 12:15 15 จง​ระวัง​ให้​ดี​อย่า​ให้​ใคร​เพิกเฉย​ต่อ​พระ​คุณ​ของ​พระ​เจ้า และ​อย่า​ให้​มี​ราก​ขม​ขื่น​งอก​ขึ้น​มา ทำ​ความ​ยุ่งยาก​ให้ ซึ่ง​จะ​เป็น​เหตุ​ให้​คน​เป็น​อัน​มาก​เสีย​ไป​ เพราะฉะนั้น พระคัมภีร์ได้เตือนเราให้ใส่ใจรอยแยกเล็กๆ จัดการกับใจที่ไม่บริสุทธิ์ ด้วยการเรียนรู้จากพระคริสต์ ​เอเฟซัส 4:20-30 20 แต่​ว่า​ท่าน​ไม่ได้​เรียนรู้​จัก​พระ​คริสต์​อย่าง​นั้น​ :21 ถ้า​แม้​ท่าน​ได้​ฟัง​เรื่อง​พระ​องค์ และ​ได้​เรียนรู้​เรื่อง​พระ​องค์​ตาม​สัจ​ธรรม ซึ่ง​มี​อยู่​ใน​พระ​เยซู​แล้ว​ 22 ท่าน​จง​ทิ้ง​ตัว​เก่า​ของ​ท่าน ซึ่ง​คู่​กับ​วิถี​ชีวิต​เดิม​นั้น​เสีย อัน​จะ​เสื่อม​เสีย​ไปสู่​ความ​ตาย​ตาม​ตัณหา​อัน​เป็น​ที่​หลอก​ลวง​ :23 และ​จง​ให้​วิญญาณ​จิต​ของ​ท่าน​เปลี่ยน​ใหม่​:24 และ​ให้​ท่าน​สวม​สภาพ​ใหม่ ซึ่ง​ทรง​สร้าง​ขึ้น​ใหม่​ตาม​แบบอย่าง​ของ​พระ​เจ้า ใน​ความ​ชอบธรรม​และ​ความ​บริสุทธิ์​ที่​แท้จริง:25 เหตุ​ฉะนั้น​ท่าน​จง​เลิก​พูด​มุสา​เสีย และจง​พูด​ความ​จริง​ต่อ​กัน  เพราะ​ว่า​เรา​ต่าง​ก็​เป็น​อวัยวะ​ของ​กัน​และ​กัน​26 จะ​โกรธ​ก็​โกรธ​ได้ แต่​อย่า​ทำ​บาป  อย่า​ให้​ถึง​ตะวันตก​ท่าน​ยัง​โกรธ​อยู่​:27 และ​อย่า​ให้​โอกาส​แก่​มาร​:28 คน​ที่​เคย​ขโมย​ก็​อย่า​ขโมย​อีก แต่​จง​ใช้​มือ​ทำงาน​ที่​ดี​ดีกว่า เพื่อ​จะ​ได้​มี​อะไรๆ แจก​ให้แก่​คน​ที่​ขัด​สน​:29 อย่า​ให้​คำ​หยาบ​คาย​ออกมา​จาก​ปาก​ท่าน​เลย แต่​จง​กล่าว​คำ​ที่​ดี​และ​เป็น​ประโยชน์​ให้​เหมาะสม​กับ​ความ​ต้อง​การ เพื่อ​จะ​ได้​เป็น​คุณ​แก่​คน​ที่​ได้​ยิน​ได้​ฟัง​30 และ​อย่า​ทำ​ให้​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​ของ​พระ​เจ้า​เสีย​พระ​ทัย เพราะ​โดย​พระ​วิญญาณ​นั้น​ท่าน​ได้​ถูก​ประทับตรา​หมาย​ท่าน​ไว้ เพื่อ​วันที่​จะ​ทรง​ไถ่​ให้​รอด​

“มีใจเดียว” Oneness

  1. จัดการกับใจที่ไม่มั่นคง
  2. จัดการกับใจที่ไม่บริสุทธิ์

By admin