“เป็นผู้ปรนนิบัติแบบ ไดโคนอสและดูลอส”

ภาษาอังกฤษมีคำหนึ่ง คือคำว่า Service mind แปลว่า หัวใจบริการ  คนที่มีหัวใจบริการ ไปไหน เขาจะทำหน้าที่บริการคนทุกระดับประทับใจ เขาจะไม่เป็นคนชอบชี้นิ้วสั่งคนอื่น แต่จะเป็นคนที่ใส่ใจ ทำด้วยความรู้สึกชื่นชมยินดี มีความสุขที่ได้ปรนนิบัติ  เราชอบคนที่มีหัวใจบริการ เพราะเขาจะเป็นคนที่คล่องตัว คล่องแคล่ว ไม่ต้องรอให้สั่งก็ขยับ ซึ่งตรงกันข้ามกับคำที่เราสร้างประโยคบรรยายคนที่ตรงกันข้ามกับพวกหัวใจบริการ  พวกนี้นิ่งเป็นหลับ ขยับเป็นกิน แต่คนที่มีหัวใจบริการ ขยับตลอดเวลา ไม่มีนิ่ง น้าของข้าพเจ้าใช้สำนวนเรียกคนที่นิ่งและขยับตามคำสั่ง ว่า เป็นเหมือนลูกฟุตบอล ต้องเตะถึงจะขยับ คือต้องสั่ง จึงจะทำ แต่คนที่มีหัวใจบริการ จะมีลักษณะอย่างเดียวกับผู้ปรนนิบัติที่พระคัมภีร์ได้กล่าวถึง คือไดโคนอส  พระเยซูคริสต์เจ้าทรงตรัสถึงจุดมุ่งหมายการเสด็จมาบังเกิดในโลกนี้ของพระองค์อย่างนี้ว่า มัทธิว 20:28 28 อย่าง​ที่​บุตร​มนุษย์​มิ​ได้มา​เพื่อ​รับ​การ​ปรนนิบัติ แต่​ท่าน​มา​เพื่อ​จะ​ปรนนิบัติ​เขา และ​ประทาน​ชีวิต​ของ​ท่าน​ให้​เป็น​ค่า​ไถ่​คน​เป็น​อัน​มาก”  พระเยซูทรงใช้คำว่า ปรนนิบัติในประโยคนี้  มาจากรากศัพท์ภาษากรีกคำว่า ไดโคนอส Diakonos แปลว่า ผู้ต้อนรับ ผู้รับใช้ เป้าหมายปลายทางของพระเยซูในการเป็นผู้ปรนนิบัติ นั้นถึงขนาดมอบชีวิตให้เป็นค่าไถ่ชีวิตของคนที่พระองค์ทรงปรนนิบัติ  พระเยซูได้อธิบายการเสียสละชีวิตเพื่อคนจำนวนมากในฐานะที่พิเศษ  ยอห์น 15:13-15 13 ไม่​มี​ผู้ใด​มี​ความ​รัก​ที่​ยิ่งใหญ่​กว่า​นี้ คือ​การ​ที่​ผู้​หนึ่ง​ผู้ใด​จะ​สละ​ชีวิต​ของ​ตน​เพื่อ​มิตร​สหาย​ของ​ตน​14 ถ้า​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ประพฤติ​ตาม​ที่​เรา​สั่ง​ท่าน ท่าน​ก็​จะ​เป็น​มิตร​สหาย​ของ​เรา​15 เรา​จะ​ไม่​เรียก​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ว่า​บ่าว​อีก เพราะ​บ่าว​ไม่​ทราบ​ว่า​นาย​ทำ​อะไร แต่​เรา​เรียก​ท่าน​ว่า​มิตร​สหาย เพราะ​ว่า​ทุก​สิ่ง​ที่​เรา​ได้​ยิน​จาก​พระ​บิดา​ของ​เรา เรา​ได้​สำแดง​แก่​ท่าน​แล้ว​ ฐานะที่เกิดขึ้นคือความเป็นมิตรสหาย จะเห็นว่า พระเยซูทรงปรนนิบัติคนทั้งปวงอย่างมิตรสหาย

เราเคยสังเกตเพื่อนปรนนิบัติเพื่อนไม๊  ฐานะเท่ากัน ไม่มีใครต่ำกว่าใคร เต็มใจทำให้เพื่อน เพื่อนรับการปรนนิบัติจากเพื่อน พระเยซูได้ตรัสถึงภาพฐานะของบ่าวกับนายในตอนหนึ่งว่า ลูกา 12:37 37 บ่าว​ซึ่ง​นาย​มา​พบ​กำลัง​คอย​เฝ้า​อยู่​ก็​เป็น​สุข เรา​บอก​ความ​จริง​แก่​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ว่า นาย​นั้น​จะ​คาด​เอว​ไว้​และ​ให้​บ่าว​เหล่า​นั้น​เอน​กาย​ลง และ​ท่าน​จะ​มา​เดิน​โต๊ะ​  เป็นภาวะที่แปลก แทนที่นายจะรับการปรนนิบัติจากบ่าวที่รอคอย แต่นายกลับให้บ่าวนั่งเอนกาย แล้วนายคาดเอวปรนนิบัติบ่าวแทน  พระเยซูกำลังบอกว่า ฐานะของบ่าวได้เปลี่ยนไป การรอคอยของคริสเตียนที่รอคอยพระเยซูและทำตามที่พระองค์สั่ง ฐานะของคริสเตียนคนนั้นเปลี่ยนไปเป็นมิตรสหายของพระเยซู พระเยซูทรงปรนนิบัติคริสเตียนคนนั้นอย่างมิตรสหาย  การรอคอยอย่างผู้รับปรนนิบัติทำให้ฐานะเปลี่ยนเป็นมิตรสหายของพระเยซู  คนที่มีหัวใจบริการจะได้รับการบริการจากพระเยซู อย่างเพื่อน 14 ถ้า​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ประพฤติ​ตาม​ที่​เรา​สั่ง​ท่าน ท่าน​ก็​จะ​เป็น​มิตร​สหาย​ของ​เรา​ คุณลักษณะหนึ่งในการที่เราจะไปถึงความไพบูลย์ของพระคริสต์ ก็คือ เป็นผู้ปรนนิบัติ คำถามก็คือว่า เราจะเป็นผู้ปรนนิบัติได้อย่างไร นี่คือสิ่งที่หนังสือเอเฟซัสบทที่สี่นี้ได้กล่าวถึง ของประทานห้าอย่างที่มีไว้สำหรับเตรียมธรรมิกชนเพื่อการรับใช้ และเสริมสร้างพระกายพระคริสต์ วันนี้ยังจะไม่กล่าวถึงของประทานห้าอย่างนี้ แต่จะกล่าวถึงธรรมิกชนที่จะรับการเตรียมผ่านของประทานห้าอย่าง  คำว่า “ธรรมิกชน” แปลว่า ผู้ที่ปราศจากที่ติ  คำว่า  “เตรียม” ภาษาอังกฤษใช้คำว่า Perfecting รากศัพท์ภาษากรีกแปลว่า การตกแต่งให้ครบบริบูรณ์   คนมากมายในโลกนี้ พยายามที่จะตกแต่งชีวิตของตนเองเพื่อจะเป็นคนที่มีอิทธิพล และจะใช้อิทธิพลนั้นเป็นอำนาจ หรือเป็นผู้นำเหนือคนอื่น  มัทธิว 20:25-27 25 ​พระ​เยซู​ทรง​เรียก​เขา​ทั้ง​หลาย​มา​ตรัส​ว่า “ท่าน​ทั้ง​หลาย​รู้อยู่​ว่า​ผู้​ครอง​ของ​คน​ต่างชาติ ย่อม​เป็น​เจ้า​เหนือ​เขา และ​ผู้ใหญ่​ทั้ง​หลาย​ก็​ใช้​อำนาจ​บังคับ​26 แต่​ใน​พวก​ท่าน​หา​เป็น​อย่าง​นั้น​ไม่ ถ้า​ผู้ใด​ใคร่​จะ​ได้​เป็น​ใหญ่​ใน​พวก​ท่าน ผู้​นั้น​จะต้อง​เป็น​ผู้​ปรนนิบัติ​ท่าน​ทั้ง​หลาย27 ถ้า​ผู้ใด​ใคร่​จะ​ได้​เป็น​เอก​เป็น​ต้น ผู้​นั้น​จะต้อง​เป็น​ทาส​สมัคร​ของ​พวก​ท่าน คำตรัสของพระเยซูในตอนนี้เกิดขึ้นหลังจาก มารดาของยากอบและยอห์นมาพูดกับพระเยซูว่า ถ้าพระเยซูได้เป็นใหญ่เมื่อไหร่ ขอให้ลูกชายของนางทั้งสองคนได้นั่งข้างขวาข้างซ้ายของพระเยซู สำนวนของคนโบราณพูดประโยคนี้หมายความถึงการได้มีตำแหน่งสูง การมีอำนาจ เพราะเหล่าสาวกของพระเยซูในเวลานั้น ยังไม่เข้าใจในการติดตามพระเยซู  เขามองเห็นคนมากมายนิยมชมชอบพระเยซู และพระเยซูก็ดังมาก คนยิวต่างแห่กันตามคำสอนของพระเยซู  พระเยซูมีฤทธิ์อำนาจ รักษาโรค ขับผี และเมื่อพระองค์สอน พระองค์สามารถตรีงคนให้ฟังพระองค์ได้ ดังนั้น เหล่าสาวกที่ติดตามพระเยซู โดยเฉพาะสาวกสิบสองคน ก็ฝันหวานว่า พระเยซูน่าจะเป็นผู้นำคนยิวให้หลุดพ้นจากการเป็นอาณานิคมของอาณาจักโรมได้  สาวกจึงคาดหวังความเป็นนายคน การมีตำแหน่ง การเป็นใหญ่ เป็นผู้นำที่ได้รับการยอมรับ  แต่พระเยซูทรงตอบตรงกันข้ามว่า พระองค์ไม่ได้มาเพื่อปกครอง ชี้นิ้ว แต่มาเพื่อปรนนิบัติ คือเป็นไดโคนอส  และเมื่อพระเยซูทรงสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน หลังจากนั้นสามวัน ทรงฟื้นขึ้นมาจากความตาย สาวกเริ่มเข้าใจ ปะติปะต่อสิ่งที่พระเยซูทรงสอน และเป็นแบบอย่างเรื่องการปรนนิบัติ อ.เปาโลจึงได้เขียนหนังสือเอเฟซัสบทที่สี่นี้ ว่า ความไพบูลย์ของพระเยซูคริสต์คือการเป็นผู้ปรนนิบัติเต็มตัว ผู้ปรนนิบัติที่สวยงาม สมบูรณ์โดยปราศจากเงื่อนไขของการปรนนิบัติ ด้วยแรงจูงใจของการปรนนิบัตินั้นมาจากธรรมชาติของการเป็นผู้ปรนนิบัติอย่างแท้จริง  พระคัมภีร์ใช้คำว่า ไม่ใช่น้ำใจอย่างทาส โรม 8:15-17  15 เหตุ​ว่า​ท่าน​ไม่ได้​รับ​น้ำใจ​ทาส​ซึ่ง​ทำ​ให้​ตก​ใน​ความ​กลัว​อีก แต่​ท่าน​ได้รับ​พระ​วิญญาณ​ผู้​ทรง​ให้​เป็น​บุตร​ของ​พระ​เจ้า ให้​เรา​ทั้ง​หลาย​ร้อง​เรียก​พระ​เจ้า​ว่า “อับ​บา” คือ​พระ​บิดา16 ​พระ​วิญญาณ​นั้น​เป็น​พยาน​ร่วมกับ​วิญญาณ​จิต​ของ​เรา​ทั้ง​หลาย​ว่า เรา​ทั้ง​หลาย​เป็น​บุตร​ของ​พระ​เจ้า​17 และ​ถ้า​เรา​ทั้ง​หลาย​เป็น​บุตร​แล้ว เรา​ก็​เป็น​ทายาท คือ​เป็น​ทายาท​ของ​พระ​เจ้า และ​เป็น​ทายาท​ร่วมกับ​พระ​คริสต์​ เมื่อ​เรา​ทั้ง​หลาย​ทน​ทุกข์​ทรมาน​ด้วย​กัน​กับ​พระ​องค์​นั้น ​ก็​เพื่อ​เรา​ทั้ง​หลาย​จะ​ได้​ศักดิ์ศรี​ด้วย​กัน​กับ​พระ​องค์​ด้วย  จะแตกต่างกันตรงไหน ถ้าเป็นทาสที่ต้องปรนนิบัติ กับไม่ได้เป็นทาส แต่ต้องการปรนนิบัติ นี่คือสิ่งที่พระเยซูทรงใช้คำว่า ทาสสมัครของคนทั้งปวง มัทธิว 20:27  27 ถ้า​ผู้ใด​ใคร่​จะ​ได้​เป็น​เอก​เป็น​ต้น ผู้​นั้น​จะต้อง​เป็น​ทาส​สมัคร​ของ​พวก​ท่าน คำว่า ทาสสมัครตรงนี้ คือ คำว่า ดูลอส Doulos รากศัพท์ภาษากรีกแปลว่าทาสรับใช้จริงๆ  แต่เป็นทาสที่อุทิศตัวด้วยความเต็มใจ มีเสรีภาพที่จะเลือก และเลือกที่จะเป็นผู้รับใช้ และเป็นผู้รับใช้ตลอดไป ไม่ใช่ไม่พอใจก็จะออกจากการเป็นผู้รับใช้ ลาออก หยุดเป็นผู้รับใช้  ในพระคัมภีร์มีตอนหนึ่งกล่าวว่า ผู้รับใช้ต้องไม่เป็นคนชอบทะเลาะ

เราได้เห็นคนในสังคมของเรา  เวลาของขึ้น (โกรธ) ก็จะมีคำพูดหนึ่งกล่าวว่า ขอถอดหัวโขนออกหน่อย ขอเอาตำแหน่งออกชั่วคราว ขอลงไปต่อย ไปมีเรื่องกับฆราวาสก็มี

หากเรามองไปรอบๆตัวเรา เราจะพบการคาดหวังผู้ปรนนิบัติอย่างทาสสมัคร คือเต็มใจปรนนิบัติ แต่สิ่งที่พบกลับตรงกันข้าม คือการแสดงออกของการปรนนิบัติที่ไม่เต็มใจ ฝืนใจ อย่างเช่น ความเป็นสามีภรรยา น่าจะมีชีวิตของการปรนนิบัติต่อกันและกันด้วยความเต็มใจ แต่กลับไม่ใช่ ตอนรักกันยังไม่แต่งงานกัน ทั้งสองฝ่ายต่างมีความคิดว่า ถ้าฉันได้อยู่กับเธอ ฉันยินดีเป็นทาสสมัครของเธอไปจนตัวตาย แต่เมื่อได้อยู่กินด้วยกันจริงๆ กลับมีความรู้สึกว่า เมื่อไหร่อีกฝ่ายจะตายไปเร็วๆสักที หรือไม่ก็ต่างคนต่างอยู่ คือไม่ต้องมาปรนนิบัติ และไม่ต้องคาดหวังการปรนนิบัติจากกันและกัน หรือไม่ก็หย่าร้างกันไป นี่คือสภาพสังคมในปัจจุบันที่เกิดขึ้นอย่างมาก จะหาคู่ชีวิตที่ยินดีเป็นทาสสมัครน้อยลงไปเรื่อยๆ อยู่กันอย่างน้ำใจอย่างทาส คือทำตามหน้าที่ อยู่ด้วยความฝืนใจ

ลูกบางคนอยากลาออกจากความเป็นลูก เพราะถูกบีบบังคับให้ต้องปรนนิบัติพ่อแม่ด้วยน้ำใจอย่างทาส  คนในครอบครัว คนในที่ทำงาน ในองค์กรต่างๆ ต่างก็ถูกกดดันให้ทำหน้าที่ด้วยน้ำใจอย่างทาส น้อยนักที่จะสมัครใจ อย่างเช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับสายการบินหนึ่งที่ต้องงดเที่ยวบินจำนวนมาก ก็เพราะมีการซื้อตัวนักบิน ค่าตอบแทนคือสิ่งกำหนดของการย้ายที่ทำงาน มีการประท้วงเกิดขึ้น เพราะคนทำงานไม่ได้ทำงานให้องค์กรด้วยใจสมัคร แต่ด้วยค่าตอบแทนเป็นตัวตั้ง ผู้บริหารไม่ได้ใจของพนักงาน แถมยังโทษเป็นความผิดของพนักงานอีก เป็นต้น นี่คือสภาพของสังคมที่กำลังถดถอย

แท้จริงพระเยซูคริสต์ทรงเสด็จมาก็เพื่อเป็นทางออกในการแก้ปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ ตั้งแต่ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ ความสัมพันธ์กับตนเอง และกับพระเจ้า ทั้งหมด คือ น้ำใจอย่างทาส ที่ทำให้ตกอยู่ภายใต้ความกลัว เราจะพบว่า พระเยซูมักจะใช้คำว่า “อย่ากลัวเลย”  ความกลัว เป็นส่วนสำคัญของการทำให้มีน้ำใจอย่างทาส ทำให้ชีวิตของมนุษย์ขาดแคลน และไปไม่ถึงความครบบริบูรณ์

พระเยซูคริสต์จึงตรัสว่า ยอห์น 10:10 ขโมย​นั้น​ย่อม​มา​เพื่อ​จะ​ลัก​และ​ฆ่า​และ​ทำลาย​เสีย เรา​ได้มา​เพื่อ​เขา​ทั้ง​หลาย​จะ​ได้​ชีวิต และ​จะ​ได้​อย่าง​ครบ​บริบูรณ์​  ภาษากรีกคำว่า ครบบริบูรณ์ตรงนี้ มีความหมายว่า มีอย่างมากมายไม่ขาดแคลน  Abundantly ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มี มีที่จะให้ และยิ่งให้ก็ยิ่งมีมาก ไม่ว่าจะให้เวลา ให้เงินทอง ให้อาหาร ให้ความใส่ใจ ให้อะไรๆก็ตามเพื่อจะแบ่งปันให้กับคนที่ไม่มี  ชีวิตที่ครบบริบูรณ์ไม่กลัวที่จะให้ โดยเฉพาะให้การปรนนิบัติ ผู้ปรนนิบัติ ไดโคนอส และดูลอส (ทาสสมัคร) ไม่กลัวเสียศักดิ์ศรี ไม่รู้สึกว่าตนเองเป็นทาส ไม่รู้สึกว่าตนเองต้อยต่ำ เพราะนี่คือน้ำใจใหม่ คือน้ำใจของพระคริสต์ ฟิลิปปี 2:5-11  5 ท่าน​จง​มี​น้ำใจ​ต่อ​กัน​เหมือน​อย่าง​ที่​มี​ใน​พระ​เยซู​คริสต์​6 ผู้​ทรง​สภาพ​ของ​พระ​เจ้า แต่​มิได้​ทรง​ถือ​ว่า​การ​เท่า​เทียม​กับ​พระ​เจ้า​นั้น​เป็น​สิ่ง​ที่​จะต้อง​ยึดถือ​ 7 แต่​ได้​กลับ​ทรง​สละ และ​ทรง​รับ​สภาพ​ทาส ทรง​ถือ​กำเนิด​เป็น​มนุษย์​8 และ​เมื่อ​ทรง​ปรากฏ​พระ​องค์​ใน​สภาพ​มนุษย์​แล้ว ​พระ​องค์​ก็​ทรง​ถ่อม​พระ​องค์​ลง​ยอม​เชื่อ​ฟัง​จนถึง​ความ​มรณา กระทั่ง​ความ​มรณา​ที่​กางเขน​9 เหตุ​ฉะนั้น​พระ​เจ้า​จึง​ได้​ทรง​ยก​พระ​องค์​ขึ้น​อย่าง​สูง และ​ได้​ประทาน​พระ​นาม​เหนือ​นาม​ทั้ง​ปวง​ให้แก่​พระ​องค์​10 เพื่อ​เพราะ​พระ​นาม​นั้นทุก​เข่า  ใน​สวรรค์ ที่​แผ่นดิน​โลก ใต้​พื้น​แผ่นดิน​โลก จะ​คุก​ลง​กราบ  ​พระ​เยซู​11 และ​เพื่อทุก​ลิ้น​จะ​ยอมรับ  ว่า​พระ​เยซู​คริสต์​ทรง​เป็น​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า อัน​เป็น​การ​ถวาย​พระ​เกียรติ​แด่​พระ​บิดา​เจ้า​ นี่แหล่ะคือความไพบูลย์ของพระเยซูคริสต์ที่ทรงต้องการให้สาวกของพระองค์มีส่วนในศักดิ์ศรีที่แท้จริง เป็นศักดิ์ศรีที่ถาวรนิรันดร์ สง่างาม และได้รับการยกขึ้นและยอมรับจากบุคคลที่สามารถยกเราขึ้นได้อย่างแท้จริง มิใช่เป็นเพียงการยกยอปอปั้นที่มนุษย์สร้างสรรปั้นแต่ง

เอเฟซัส 4:11-16 11 ของ​ประทาน​ของ​พระ​องค์ ​ก็​คือ​ให้​บาง​คน​เป็น​อัครทูต บาง​คน​เป็น​ผู้เผย​พระ​วจนะ บาง​คน​เป็น​ผู้​เผยแพร่​ข่าว​ประเสริฐ บาง​คน​เป็นศิษ​ยาภิ​บาล​และ​อาจารย์​12 เพื่อ​เตรียม​ธรรมิก​ชน​ให้​เป็น​คน​ที่​จะ​รับ​ใช้ เพื่อ​เสริมสร้าง​พระ​กาย​ของ​พระ​คริสต์​ให้​จำเริญ​ขึ้น​13 จนกว่า​เรา​ทุก​คน​จะ​บรรลุ​ถึง​ความ​เป็น​น้ำ​หนึ่ง​ใจ​เดียว​กัน​ใน​ความ​เชื่อ และ​ใน​ความ​รู้​ถึง​พระ​บุตร​ของ​พระ​เจ้า จนกว่า​เรา​จะ​โต​เป็น​ผู้ใหญ่​เต็มที่ คือ​เต็ม​ถึง​ขนาด​ความ​ไพบูลย์​ของ​พระ​คริสต์​14 เพื่อ​เรา​จะ​ไม่​เป็น​เด็ก​อีก​ต่อไป ถูก​ซัด​ไป​ซัด​มา​และ​หัน​ไป​เหมา​ด้วย​ลมปาก​แห่ง​คำ​สั่ง​สอน​ทุก​อย่าง และ​ด้วย​เล่ห์​กล​ของ​มนุษย์​ตาม​อุบาย​ฉลาด​อัน​เป็น​การ​ล่อลวง​15 แต่​ให้​เรา​ยึด​ความ​จริง​ด้วย​ใจ​รัก เพื่อ​จะ​จำเริญ​ขึ้น​ทุก​อย่าง​สู่​พระ​องค์​ผู้​เป็น​ศีรษะ คือ​พระ​คริสต์​16 คือ​เนื่อง จาก​พระ​องค์​นั้น ร่างกาย​ทั้งสิ้น​ที่​ติดต่อ​สนิท​และ​ประสานกัน​โดย​ทุกๆ ข้อ​ต่อ​ที่​ทรง​ประทาน ได้​จำเริญ​เติบโต​ขึ้น​ด้วย​ความ​รัก เมื่อ​อวัยวะ​ทุก​อย่าง​ทำงาน​ตาม​ความ​เหมาะสม​แล้ว   ​เริ่มต้นที่เราฟังเทศนาเรื่องนี้  จากหัวข้อ แรก คือเติบโดด้วยความรัก ไม่เป็นเด็กอีกต่อไ ป  และมีใจเดียว วันนี้ เป็นผู้รับใช้ แบบไดโคนอส และดูลอส

1.ไดโคนอสผู้มีหัวใจบริการจัดการกับหัวใจตนเอง เอเฟซัส 4:12ก

​12 เพื่อ​เตรียม​ธรรมิก​ชน​ให้​เป็น​คน​ที่​จะ​รับ​ใช้…

หากคริสตจักรมีไดโคนอส ผู้มีหัวใจบริการ ทำด้วยหัวใจ ไม่ใช่แค่หัวสมอง ทำด้วยธรรมชาติใหม่ที่เกิดจากพระวิญญาณของพระเจ้า คริสตจักรจะเป็นแบบอย่างของการเป็นผู้รับใช้ที่มีหัวใจบริการแก่คนรอบข้าง

สำหรับคริสเตียน ที่เป็นผู้รับใช้ ไดโคนอส คริสตจักรจึงต้องมีของประทานห้าอย่างเพื่อจะอบรมและสอนเรา เตรียมเราให้เป็นธรรมิกชนเพื่อการรับใช้ ประเด็นในวันนี้ คือการที่เราจะไปถึงการเป็นผู้รับใช้ไดโคนอส ผู้มีหัวใจบริการ อย่างที่พระเยซูคริสต์เจ้าทรงคาดหวังให้เราเป็น เราต้องจัดการกับหัวใจของเราก่อน ถ้าใจของเรายังติดอยู่กับความคาดหวังการรับการปรนนิบัติจากผู้อื่น เราจะมองตนเองสูงกว่าคนอื่น เป็นความเย่อหยิ่ง และไม่มีทางที่เราจะเป็นผู้รับใช้ไดโคนอส ได้ ยากอบ 4:6 6 แต่​พระ​องค์​ก็​ได้​ทรง​ประทาน​พระ​คุณ​เพิ่มขึ้น​อีก เหตุ​ฉะนั้น ​พระ​คัมภีร์​จึง​กล่าว​ว่า ​พระ​เจ้า​ทรง​ต่อสู้​ผู้​ที่​หยิ่ง​จองหอง แต่​ทรง​ประทาน​พระ​คุณ​แก่​คน​ที่​ใจ​ถ่อม ​ใจที่ต้องจัดการ คือใจที่เย่อหยิ่ง หากไม่จัดการ พระเจ้าจะจัดให้ นั่นคือการต่อสู้ที่มาจากพระเจ้า แต่ใจที่ถ่อม จะได้รับพระคุณจากพระเจ้า พระคุณหมายถึง การได้รับสิ่งที่ไม่น่าจะได้รับ ไม่ควรจะได้รับ เพราะฐานะ หรือความจำกัด แต่พระเจ้าจะเป็นผู้จัดเตรียมให้กับผู้ที่มีใจถ่อม ผู้รับใช้ไดโคนอส ผู้มีหัวใจบริการ จัดการกับหัวใจของตนเอง  พระคุณของพระเจ้าจะตามทันคนๆนั้นเสมอ และคำว่า Perfecting หรือ  “การถูกเตรียม” จะกลายเป็นปฏิกิริยาต่อเนื่องที่เกิดขึ้นกับคนที่จัดการกับหัวใจตนเอง  ในขณะที่รับพระคุณของพระเจ้าไม่รับเปล่าๆอีกต่อไป แต่คนที่ใจถ่อมจะปรนนิบัติ และปรนนิบัติ จนสามารถเป็นที่สังเกตุมองเห็นได้อย่างชัดเจนในท่ามกลางคนรอบข้าง เขาจะเป็นพระพร ไม่ใช่พระเพลิง เพราะการปรนนิบัติของคนที่มีใจถ่อม จะไว จะคล่องตัว จะเคลื่อนที่เร็ว และชำนาญมากขึ้น นี่คือคำอธิบายของคำว่า เชี่ยวชาญในการดี

2.ดูลอส ผู้รับใช้ที่มีน้ำใจอย่างทาสสมัครตลอดไป เอเฟซัส 4:12ข

….เพื่อ​เสริมสร้าง​พระ​กาย​ของ​พระ​คริสต์​ให้​จำเริญ​ขึ้น​

คำว่า เสริมสร้างให้จำเริญขึ้น มีความหมายทางบวกอย่างเดียว ไม่เป็นสองด้าน ไม่มีด้านลบ นั่นคือ การปรนนิบัติของดูลอสจะไม่มีการบ่น ไม่มีความขมขื่น ไม่มีการจดจำความผิดความบกพร่องของคนอื่น ไม่เก็บเอามานินทาว่าร้าย ไม่เปรียบเทียบ คนอื่นทำน้อยกว่าตน ไม่บั่นทอนโจมตีคนที่ไม่ทำ ไม่กลัวที่จะต้องทำคนเดียว ไม่อึดอัด เพราะน้ำใจทาสสมัครอยู่ในดูลอส ไม่ถอดใจ ไม่ถอนตัว นี่คือสิ่งที่ทุกครอบครัวของคนไทยกำลังต้องการ นี่คือสิ่งที่สามีภรรยา พ่อแม่ลูก พี่น้องกำลังต้องการ  และนี่คือสิ่งที่สมาชิกคริสตจักรใจสมานเพชรเกษม 11 และผู้รับใช้เต็มเวลา ผู้นำทุกคนต้องการ

เรามักจะเห็นการบ่นเกิดขึ้นง่ายๆ และแรงๆ ในคนใกล้ชิด ในครอบครัวเดียวกัน เพราะเป็นที่ที่บ่มเพาะน้ำใจอย่างทาสได้ง่ายที่สุด  แต่ก็เป็นที่ๆที่จะบ่มเพาะน้ำใจอย่างทาสสมัครได้ง่ายด้วยเช่นกัน  จงหันกลับไปสำรวจตนเองว่า กำลังบ่มเพาะน้ำใจอย่างไหนในชีวิตของตนเอง โรม 8:15-16  15 เหตุ​ว่า​ท่าน​ไม่ได้​รับ​น้ำใจ​ทาส​ซึ่ง​ทำ​ให้​ตก​ใน​ความ​กลัว​อีก แต่​ท่าน​ได้รับ​พระ​วิญญาณ​ผู้​ทรง​ให้​เป็น​บุตร​ของ​พระ​เจ้า ให้​เรา​ทั้ง​หลาย​ร้อง​เรียก​พระ​เจ้า​ว่า “อับ​บา” คือ​พระ​บิดา16 ​พระ​วิญญาณ​นั้น​เป็น​พยาน​ร่วมกับ​วิญญาณ​จิต​ของ​เรา​ทั้ง​หลาย​ว่า เรา​ทั้ง​หลาย​เป็น​บุตร​ของ​พระ​เจ้า​ เราเป็นบุตรของพระเจ้าแล้ว จงดำเนินชีวิตให้สมกับเป็นบุตรของพระเจ้า  สิ่งที่เราต้องทำ ยังไงก็ต้องทำ แต่หลายคนทำด้วยความขมขื่นใจและบ่น  ดังนั้น  สิ่งที่ทำไปจึงตกต่ำลงและ ด้อยคุณค่าไป เพราะคำบ่น และความขมขื่นใจ เช่นเดียวกับเรื่องแรงจูงใจในการปรนนิบัติที่ไม่ได้มาจากความรัก ก็ไร้ค่า เปล่าประโยชน์ในสายพระเนตรของพระเจ้า 1โครินธ์ 13:1-3 1 แม้​ข้าพเจ้า​พูด​ภาษา​แปลกๆ ได้ เป็น​ภาษา​มนุษย์​ก็​ดี เป็น​ภาษา​ทูตสวรรค์​ก็​ดี แต่​ไม่​มี​ความ​รัก ข้าพเจ้า​เป็น​เหมือน​ฆ้อง​หรือ​ฉาบ​ที่​กำลัง​ส่ง​เสียง​2 แม้​ข้าพเจ้า​จะ​เผย​พระ​วจนะ​ได้ และ​เข้าใจ​ใน​ความ​ล้ำ​ลึก​ทั้ง​ปวง​และ​มี​ความ​รู้​ทั้งสิ้น และ​มี​ความ​เชื่อ​มาก​ยิ่ง​ที่สุด​พอจะ​ยก​ภูเขา​ไป​ได้ แต่​ไม่​มี​ความ​รัก ข้าพเจ้า​ก็​ไม่​มี​ค่า​อะไร​เลย​3 แม้​ข้าพเจ้า​จะ​สละ​ของ​สารพัด​หรือ​ยอม​ให้​เอา​ตัว​ข้าพเจ้า​ไป​เผา​ไฟ​เสีย แต่​ไม่​มี​ความ​รัก จะ​หา​เป็น​ประโยชน์​แก่​ข้าพเจ้า​ไม่

การงานของใครทนไฟได้ คือการงานแบบไหน ข้าพเจ้ายังอยากจะย้ำความเข้าใจนี้ก็คือ การงานที่มีแรงจูงใจตามที่พระเจ้าทรงคาดหวัง และพระเยซูก็ทรงตรัสเรื่องการปรนนิบัติด้วย น้ำใจอย่างทาสสมัคร ไม่ใช่ทำอย่างขอไปที แต่ด้วยความเต็มใจ และตลอดไป รางวัลที่คนๆนั้นจะได้รับคือการยกขึ้นที่มาจากพระเจ้าและนี่คือคำตอบของการแก้ปัญหามากมายในครอบครัว ที่ทำงาน ที่คริสตจักร เพราะทุกคนต่างมีมุมมองของการปรนนิบัติที่เปลี่ยนไป และนี่คือการสวนกับกระแสของโลกนี้อย่างแท้จริง

ขอให้เรามุ่งหน้าที่จะ เตรียมชีวิตตนเองเป็นผู้รับใช้อย่างไดโคนอสและดูลอสผู้มีน้ำใจอย่างทาสสมัคร

“เป็นผู้ปรนนิบัติแบบ ไดโคนอสและดูลอส”

1.ไดโคนอส ผู้มีหัวใจบริการจัดการกับหัวใจตนเอง

2.ดูลอส ผู้รับใช้ที่มีน้ำใจอย่างทาสสมัครตลอดไป

By admin