“จริงใจ…มองชัด…ไว้วางใจได้ ” ฮีบรู 10:35-39 35 เหตุฉะนั้นขออย่าได้ละทิ้งความไว้วางใจของท่าน ซึ่งจะได้รับบำเหน็จอันยิ่งใหญ่36 ท่านทั้งหลายจำเป็นต้องมีความอดทน เพื่อว่าท่านจะได้สามารถกระทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้าได้ แล้วท่านจะได้รับสิ่งที่พระองค์ได้ทรงสัญญาไว้นั้น 37 อีกไม่นาน พระองค์ผู้จะเสด็จมาก็จะเสด็จมาและจะไม่ทรงชักช้า 38 แต่คนชอบธรรมของเรานั้นจะดำรงชีวิตอยู่ด้วยความเชื่อ และถ้าความเชื่อของเขาเสื่อมถอย เราจะไม่มีความพอใจในคนนั้นเลย 39 แต่ท่านทั้งหลายไม่ใช่คนที่เสื่อมถอย และถึงซึ่งความพินาศ แต่เป็นคนที่เชื่อมั่น จึงทำให้ชีวิตปลอดภัย คำว่า ไว้วางใจในหนังสือฮีบรูนี้ ใช้คำเดียวกันกับที่แปลในข้อที่ 19 บทเดียวกัน19 เหตุฉะนั้นพี่น้องทั้งหลาย เมื่อเรามีใจกล้าที่จะเข้าไปสู่สถานศักดิ์สิทธิ์โดยพระโลหิตของพระเยซู แต่ข้อที่ 19 แปลไทยว่า กล้าหาญ รากศัพท์ภาษากรีกคำนี้ แปลว่า การพูด (ต่อหน้า พูดด้วยใจจริง) บริบทของการพูดและแสดงออกด้วยความมั่นในในพระโลหิตของพระเยซู ฮีบรู 10:22 ก็ให้เราเข้าไปใกล้ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ด้วยไว้ใจเต็มที่ มีใจที่ได้รับการทรงชำระให้สะอาดแล้ว และมีกายที่ล้างชำระด้วยน้ำบริสุทธิ์ นี่คือวิถีชีวิตของคนพระคัมภีร์เรียกว่า คนชอบธรรมที่ดำรงอยู่ด้วยความเชื่อ ไม่ใช้มาตรฐานอย่างโลกตัดสินกัน ไม่ระแวงกัน ไม่มองกันและกันในแง่ร้าย ความไว้วางใจที่พระคัมภีร์ตอนนี้กำชับว่าอย่าได้ละทิ้งความไว้วางใจของท่าน ซึ่งจะได้รับบำเหน็จอันยิ่งใหญ่ (ต่อหน้า พูดด้วยใจจริง) ปฏิบัติกับพระเยซูอย่างไร ก็ทำกับคนอื่นอย่างนั้น เรากำลังอยู่ในโลกนี้ที่เต็มไปด้วยกระแสสังคมที่หวาดระแวงกันและกัน ดูถูกกัน และมองดูกันด้วยอิทธิพลของความมืด สังคมในยุคนี้กำลังทำลายความน่าเชื่อถือ และความน่านับถือของกันและกัน ขอพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงช่วยเราให้มองเห็นชัดกับดักอันร้ายกาจของศัตรูคือมารซาตาน และการล่อลวงของเนื้อหนังที่มีบาดแผลในอดีต จนไม่สามารถจะไว้วางใจใครได้เลย การต้องอยู่ในสภาพสังคมที่ไม่ไว้วางใจกัน ต้องใช้ความอดทนสูง โดยเฉพาะเมื่อเราตกอยู่ในสถานะที่ถูกดูหมิ่น อย่าได้เสียกำลังใจ จงรักษาความน่าไว้วางใจในการเดินทางเดียวกันกับพระเยซู ที่ทรงถูกมองและปฏิบัติอย่างเดียวกัน พระเยซูได้กล่าวแล้วว่า สาวกจะต้องเจอสภาพเดียวกันกับพระองค์ ลูกา 6:40-42 40 ศิษย์ไม่ใหญ่กว่าครู แต่ศิษย์ทุกคนที่ได้รับการฝึกสอนครบแล้ว ก็จะเป็นเหมือนครูของตน41 เหตุไฉนท่านมองดูผงที่ในตาพี่น้องของท่าน แต่ไม้ทั้งท่อนที่อยู่ในตาของท่าน ท่านก็ไม่รู้สึก42 เหตุไฉนท่านจึงจะพูดกับพี่น้องของท่านว่า ‘พี่น้องเอ๋ย ให้เราเขี่ยผงออกจากตาของเธอ’ แต่ที่จริงท่านเองยังไม่เห็นไม้ทั้งท่อนที่อยู่ในตาของท่าน ท่านคนหน้าซื่อใจคด จงชักไม้ทั้งท่อนออกจากตาของท่านก่อน แล้วท่านจะเห็นได้ถนัด จึงจะเขี่ยผงออกจากตาพี่น้องของท่านได้ พระเยซูทรงมองเห็นชัด เห็นทะลุในจิตใจของคน พระองค์จึงไม่เดือดร้อนที่คนจะปฏิบัติกับพระองค์อย่างดูถูก ดูหมิ่น เพราะสายตาอย่างนั้น ยังมีไม้ทั้งท่อนอยู่ในตาของตนเอง ความจริงใจ การมองชัด ทำให้พระเยซูทรงเป็นที่พอพระทัยและเป็นที่ไว้วางใจได้ของพระบิดาบนฟ้าสวรรค์